หน้าเป็นกระ กับพฤติกรรมในชีวิตประจำวันบางอย่างก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ปัญหาเกิดขึ้นได้เช่นกัน เราจะมีวิธีรับมือเมื่อเกิดฝ้ากระบนหน้าได้อย่างไร ที่จะทำให้ลดลงได้ ซึ่งการเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพนั้นก็มีส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้กระบนหน้าลดลงได้
กระ เป็นปัญหาผิวหนังที่เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้เซลล์เม็ดสีรวมตัวกันมากกว่าปกติในบางจุด ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นดำคล้ำขึ้น จนเกิดกระหรือฝ้าบนใบหน้า ส่วนใหญ่มักมีสาเหตุจากภายใน เช่น พันธุกรรม และปัจจัยภายนอก เช่น แสงแดด รวมถึงปัจจัยข้างเคียงอื่น ๆ ที่ต้องพบเจอตามแต่ละช่วงวัยและสะสมเป็นปัญหาผิวที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเราควรจะหาวิธีกระชับรูขุมขน เร่งด่วนเผื่อรักษาใบหน้าของเราให้เหมาะสมกับวัย
พฤติกรรมใดบ้างที่เสี่ยงทำให้เกิดหน้าเป็นกระได้ ?
- ผิวหน้าเจอแสงแดด : แสงแดดไม่ได้เป็นเพียงตัวการที่ทำให้ผิวคล้ำเสียเท่านั้น ยังเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน เพราะมีการผลิตเม็ดสีเมลานินเพื่อกรองรังสียูวี หากผิวโดนแดดเป็นเวลานานเมลานินก็จะถูกผลิตมากขึ้นเช่นกัน รังสีที่ทำให้เกิดฝ้าได้คือรังสี UVA สำหรับผู้หญิงที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟ ไม่กลัวแดด ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง สิ่งสำคัญคือต้องใช้ครีมกันแดดที่มีประสิทธิภาพซึ่งเหมาะกับกิจกรรมที่ทำเป็นประจำเพื่อช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี
- ไม่ใช้ครีมบำรุง : หลายคนคิดว่าการดูแลผิวเป็นเพียงปัญหาของคนวัย 30 ขึ้นไป ทำให้จุดด่างดำ หน้าเป็นกระ ฝ้าต่าง ๆ ไม่ได้รับการดูแลจนกลายเป็นปัญหา เป็นไปไม่ได้ที่จะลดความเสี่ยงของการเกิดฝ้าลึกในอนาคต เราควรหมั่นทาครีมบำรุงผิวอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงเลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวจากความหมองคล้ำเป็นประจำตั้งแต่เนิ่น ๆ
- เครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ : เคลียร์งานจนดึก นั่งทำงานหน้าจอคอมทั้งวัน ปาร์ตี้ยันเช้า แต่ต้องตื่นไปทำงานแบบไม่ได้พัก พฤติกรรมเหล่านี้ล้วนทำให้สาว ๆ เกิดความเครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ ส่งผลเสียทั้งทางร่างกายและอารมณ์จนถึงขั้นเครียดได้ ความเครียดมีผลทำให้เกิดอนุมูลอิสระในร่างกาย ทำให้ร่างกายเร่งการหลังเม็ดสีเมลานินมากกว่าปกติ ทำให้เกิดฝ้า กระ จุดด่างดำตามมา
- ใช้ครีมไวท์เทนนิ่งที่ไม่มีประสิทธิภาพ : การใช้ครีมไวท์เทนนิ่งเพื่อช่วยฟื้นฟูผิวหน้าเป็นการดูแลฝ้ากระอีกทางหนึ่ง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งมากมาย แต่มีกลไกการทำงานและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน เกิดจากสารออกฤทธิ์ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งครีมไวท์เทนนิ่งส่วนใหญ่ที่พบในท้องตลาดทั่วไปมักมีกลไกการดูแลเฉพาะชั้นหนังกำพร้า เช่น การขัดผิวด้วยกรดผลไม้ อย่างไรก็ตาม ครีมเหล่านี้ไม่ได้จัดการกับต้นเหตุของการสร้างเม็ดสีเมลานิน ดังนั้น จุดด่างดำจึงไม่ได้รับการแก้ไขอย่างแท้จริง
ประเภทของกระที่อาจเกิดขึ้นได้บนใบหน้าของคุณ
กระ คือ จุดด่างดำที่ปรากฏบนใบหน้า หรือผิวหนังตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น คอ แขน ขา มีลักษณะเป็นสีน้ำตาลอ่อนถึงน้ำตาลเข้ม กระ ประเภทหลัก ๆ เกิดจากอะไร สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- กระตื้น
มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลเล็ก ๆ มักพบในบริเวณที่โดนแสงแดดมาก เช่น โหนกแก้มทั้งสองข้าง หรือจมูก เกิดจากการทำงานที่ผิดปกติของเซลล์เม็ดสีใต้ผิวหนัง สาเหตุของการทำงานผิดปกติของเซลล์เม็ดสีส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม ทำให้เซลล์เม็ดสีไวต่อแสงแดดมากกว่าปกติ ซึ่งเป็นสาเหตุของฝ้า กระ ตั้งแต่วัยเด็ก ควบคู่ไปกับการได้รับแสงแดดเป็นประจำโดยไม่มีการป้องกันที่เหมาะสม มีโอกาสทำให้ฝ้า หน้าเป็นกระ เข้มขึ้น เพิ่มจำนวน และใหญ่ขึ้นได้
- กระลึก
บางคนมีจุดสีน้ำตาล สีเทา หรือสีดำเล็ก ๆ บนผิวหนัง อาจมีจุดขึ้นบริเวณโหนกแก้ม ดั้งจมูก ขมับ เป็นต้น โดยจุดดังกล่าวเกิดจากความผิดปกติของเซลล์เม็ดสีในชั้นหนังแท้ จะพบตั้งแต่แรกเกิด และถูกกระตุ้นด้วยรังสียูวีจากแสงแดดพร้อมกับฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงตั้งครรภ์ จะเห็นชัดขึ้นในช่วงวัยที่โตขึ้น
- กระเนื้อ
มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อน หรือน้ำตาลเข้ม พบได้บริเวณใบหน้า คอ หน้าอก แผ่นหลัง โดยอาจมีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ มันจะค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น นูนขึ้น และมีสีเข้มขึ้น โดยมีการเจริญเติบโตค่อนข้างช้า ขนาดจะเพิ่มขึ้นและจำนวนจะเพิ่มขึ้น เมื่อมีตัวกระตุ้นคือแสงแดดและอายุที่มากขึ้น ยิ่งอายุเพิ่มมากขึ้นขนาดและจำนวนก็จะใหญ่และมากตาม
- กระแดด
มีลักษณะเป็นจุดหรือเป็นหย่อม ๆ สีน้ำตาลหรือดำขนาดเล็ก ขอบชัด มักพบบริเวณที่โดนแสงแดด เช่น ใบหน้า แขน ขา เป็นต้น ส่วนใหญ่เกิดในผู้ที่มีผิวขาวและค่อนข้างมีอายุ
หลักในการรักษาหน้าเป็นกระ แพทย์มักจะใช้วิธีใด ?
เลเซอร์รักษาฝ้าเลือดเฉพาะผู้ที่มีเม็ดสีเมลานินจึงเจาะจงที่เม็ดสีเท่านั้น เลเซอร์จะเข้าไปทำให้เม็ดสีแตกตัวเป็นเม็ดเล็ก ๆ แล้วเซลล์เม็ดเลือดขาวก็จะมากำจัดเม็ดสีออกไป โดยไม่ทำลายผิวด้านข้างเลย นอกจากนี้ทางคลินิกของเรายังใช้วิธีดึงเมลานินออกหรือใช้เลเซอร์เพื่อลดเมลานินอีกด้วย จึงช่วยลดรอยดำ ป้องกันไม่ให้เม็ดสีคล้ำ และทำให้ผิวขาวเนียนขึ้น
เลเซอร์รักษาเฉพาะเม็ดสี รักษาอะไรได้บ้าง ?
กำจัดจุดด่างดำ เช่น กระ ฝ้า กระแดด (Pigmented Lesion Removal): เลเซอร์ RevLite มีความโดดเด่นกว่าเลเซอร์สร้างเม็ดสีรุ่นก่อน ๆ สามารถรักษารอยโรคของเม็ดสีที่ผิดปกติได้ สามารถแก้ไขปัญหารอยโรคต่าง ๆ ได้ดังนี้
- กระ freckles
- ตกกระsenile lentigo (age spots)
- วงปื้นสีน้ำตาล-กาแฟcafé-au-lait birthmarks
- ฝ้าทั้งแบบตื้นและแบบลึก Epidermal and Dermal Melasma
- กระแดด solar lentigo (sun spots)
- ปาน Nevus of Ota, nevus spilus
- รักษารอยดำทุกส่วนของร่างกาย เช่น รอยคล้ำรอบดวงตา หัวนมดำ ริมฝีปากดำ รักแร้ ขาหนีบ เป็นต้น
นวัตกรรมใหม่ลบรอยกระ จุดด่างดำ ให้ได้ให้มากถึง 94%
Picoway Laser ด้วยเทคโนโลยี PicoWay 250 ps ตัวช่วย “ลบเม็ดสี ฝ้า กระ จุดด่างดำ” ให้คุณสัมผัสผิวกระจ่างใสอย่างแท้จริง เป็นเลเซอร์ที่มีกำลังสูงสุดและปล่อยพลังงานด้วยวิธีที่สั้นและเร็วที่สุด ในการสลายเม็ดสี ฝ้า กระ จุดด่างดำ กลไกตามธรรมชาติของร่างกายจะกักเก็บเม็ดสีไว้ ทำให้ฝ้า กระ ค่อย ๆ หายไป และเกิดผลข้างเคียงต่อผิวหนังน้อยที่สุด นี่คือจุดเด่นที่คลินิกเราเลือกใช้ PicoWay รักษาฝ้า หน้าเป็นกระ จุดด่างดำของคนไทย
เทคโนโลยี PicoWay 730 ร่วมกับ PicoWay Zoom 532 nm / 1064 nm เป็นความยาวคลื่นที่แรงที่สุด สั้นที่สุด และเร็วที่สุด ทำให้สามารถกำจัดฝ้า กระ จุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ เม็ดสีแตกละเอียด ด้วย PicoWay ที่พัฒนาศักยภาพของเครื่องจักรอย่างต่อเนื่อง จึงมีเทคโนโลยี PicoWay 250 ps ที่ได้รับการวิจัยแล้วว่ารองรับพลังงาน 250 Picosecond เป็นพลังงานที่สั้นที่สุดในการกำจัดฝ้า กระ จุดด่างดำบนผิวคนไทยได้มากที่สุด
การรักษาด้วยเลเซอร์เป็นที่ทราบกันดีว่าปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียง ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้ว่าการรักษาด้วยเลเซอร์ PicoWay สำหรับฝ้า กระ จุดด่างดำ สามารถทำให้ผิวหน้าของคุณกระจ่างใสขึ้นได้
ผู้ที่เข้ารับการรักษากระด้วยเลเซอร์จะกลับมาเป็นอีกไหม ?
หน้าเป็นกระ อาจเกิดสะเก็ดขึ้นได้บ้างเล็กน้อย แต่สะเก็ดนั้นก็จะหลุดล่อนและหายไปภายใน 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน หลังการรักษาด้วย Melalase laser, CO2 laser และครีมกันแดด ควรทาครีมเพื่อป้องกันรอยดำ จะช่วยให้มีผลข้างเคียงน้อยลง หากเป็นเลเซอร์แบบไร้บาดแผล คุณไม่จำเป็นต้องใช้ยาทาหลังเลเซอร์ แค่หลบแดดตามปกติ
- หากไม่ระวังเมื่อเข้ารับการรักษาไปแล้วกระแดดอาจเกิดขึ้นใหม่ได้จากการสัมผัสแสงแดด
- ในกรณีที่เป็นกระเนื้อ หากทำการเลเซอร์ไปแล้วจะหายได้เป็นปกติ โอกาสเกิดใหม่เท่ากับผิวปกติตามพันธุกรรม
- กระลึกจะไม่กลับมาเป็นอีกเมื่อได้ทำการรักษาจนกระนั้นถูกทำลายไปจนหมด
ป้องกันตัวเองอย่างไรไม่ให้หน้าเป็นกระ ?
- ผู้ที่มีแนวโน้มเป็นฝ้ากระควรเริ่มด้วยการหลีกเลี่ยงแสงแดด และลดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ หากคุณต้องอยู่กลางแจ้ง ให้ใช้ครีมกันแดดที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB ที่มีค่า SPF50 PA+++ ขึ้นไป (หากต้องอยู่กลางแดดเกือบทั้งวัน ควรทาครีมกันแดดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพื่อให้ครีมกันแดดยังคงเพียงพอต่อการป้องกันแสงแดด)
- การหยุดยาคุมกำเนิดหรือฮอร์โมนเอสโตรเจนทดแทน โดยเลือกใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นที่ไม่ใช้ฮอร์โมน
- ป้องกันตัวเองจากแสงแดดด้วยการสวมหมวกปีกกว้าง กางร่ม แว่นกันแดด และทาครีมกันแดด
- การใช้ยาทาที่มีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการเกิดเม็ดสีเมลานิน