รอยย่นหน้าผากเกิดจากอะไร กับวิธีแก้ให้กระชับแบบรวดเร็วทันใจ ?

รอยย่นหน้าผาก

รอยย่นหน้าผาก หรือรอยย่นบนหน้าผากเป็นเส้นแนวนอนที่เกิดจากคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง ซึ่งเป็นโครงสร้างของร่างกายที่ช่วยในการลดการกักเก็บของผิวหนัง ริ้วรอยรอบดวงตา รอยย่นบนหน้าผากเป็นรอยที่พบบ่อยที่สุด แต่รอยย่นบริเวณแก้มก็เป็นไปได้เช่นกัน นอกจากนี้ สาเหตุของหน้าผากย่นอาจเกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตและปัจจัยอื่น ๆ เช่น แสงแดด มลภาวะ ความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ รวมถึงการแสดงสีหน้า เป็นพฤติกรรมที่ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากเกร็งบ่อย ๆ ทำให้เกิดริ้วรอยหรือรอยย่นบาง ๆ บริเวณหน้าผาก หากไม่รักษาหรือหาวิธีแก้ไขรอยย่นหน้าผาก หรือเสริมหน้าผากเห็นขอบตั้งแต่เนิ่น ๆ จะทำให้ร่องลึกขึ้นและเป็นรอยย่นถาวรในที่สุด

ทำความรู้จักกับรอยย่นบนหน้าผาก มีประเภทใดบ้าง ?

  1. ริ้วรอยตื้น (Fine wrinkles) ลักษณะจะดูเหมือนเส้นบาง ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันคือรอยเหี่ยวย่นในผิวหนังของคุณ เกิดจากผิวแห้ง ที่เกิดจากการชะล้างหรือทำความสะอาดที่รุนแรงเกินไป หรืออาจเกิดจากมลภาวะ สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายโดยเฉพาะกับผิวที่ดูบอบบาง อย่างผิวรอบดวงตาที่จะทำให้เห็นรอยย่นใต้ตา รอยตีนกาจาง ๆ หรือเส้นบนหน้าผาก
  2. ริ้วรอยร่องลึก (Deep wrinkles or skin folds) คือ ริ้วรอยที่เกิดจากการหย่อนคล้อยของโครงสร้างผิวหนังในชั้นหนังแท้ลดลง มีคอลลาเจนในผิวหนังลดลงและอิลาสตินตามธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปตามวัย เมื่อเวลาผ่านไปก็มักจะมีร่องลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ รอยตีนกา รอยย่นหน้าผาก ร่องแก้ม รอยย่นระหว่างคิ้ว หรือเมื่อคุณยิ้มแล้วมีริ้วรอย

รอยเหี่ยวย่น

รอยเหี่ยวย่น หรือริ้วรอยบนหน้าผากเกิดจากสาเหตุใด

รอยย่นหน้าผาก สาเหตุหลักของริ้วรอยบริเวณหน้าผากเกิดจากอายุที่มากขึ้น หน้าผากจะดูเหี่ยวย่น มีรอยย่นอื่น ๆ ตามมา เช่น รอยตีนกา รอยย่นหว่างคิ้ว และอายุที่มากขึ้น ยังมีสาเหตุอื่น ๆ เช่น แสงแดดที่มากขึ้นทำให้ผิวเสื่อมสภาพและดูแก่ก่อนวัยได้

  • แสงแดด มลภาวะ
  • การสูบบุหรี่กินเหล้า
  • การแสดงสีหน้า เช่น การขมวดคิ้ว ยิ้ม หัวเราะ
  • ความเครียดจากการทำงานและความวิตกกังวล

เหล่านี้ล้วนส่งผลให้เกิดริ้วรอยบนใบหน้า เมื่อเวลาผ่านไปริ้วรอยเหล่านี้จะลึกขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะรอยย่นบนหน้าผากของผู้ชาย ที่ไม่ใส่ใจดูแลผิวเสียแต่เนิ่น ๆ

แก้รอยย่นบนหน้าผาก ให้ตึงกระชับแบบรวดเร็วทันใจใช้วิธีไหนได้บ้าง ?

ปัจจุบันศาสตร์แห่งความงามก้าวหน้าไปมาก มีวิธีที่ช่วยแก้ไข รอยย่นหน้าผาก ได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลไว โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการผ่าตัด มาดูสาเหตุ รอยย่นหน้าผาก กันก่อนดีกว่า เพื่อลดเลือนริ้วรอยอย่างถูกวิธี ต้องรู้ว่าอะไรเป็นสาเหตุ

  • ศัลยกรรมดึงหน้าผาก

มีวิธีแก้สำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าผากย่น มีความหย่อนคล้อยแบบเห็นได้ชัด ซึ่งวงการแพทย์จะใช้การทำศัลยกรรมยกกระชับหน้าผาก มีทั้งวิธีส่องกล้องดึงหน้าผาก ตัดหนังที่มีรอยย่นออกและเย็บแผลเพื่อซ่อนไรผม การผ่าตัดสามารถทำได้ทั้งการดมยาสลบ ยาชาเฉพาะที่ วิธีนี้เห็นผลถาวร แต่ต้องติดตามอาการและตัดไหม นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาในการกู้คืน จนกว่าจะหายเป็นปกติ

  • แก้หน้าผากย่นโดยใช้ฟิลเลอร์

แก้ไขรอยย่นหน้าผาก เห็นผลเร็ว ชัดเจน โดยไม่ต้องผ่าตัด สามารถทำได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์สารเติมเต็มหรือฟิลเลอร์เพื่อช่วยแก้ปัญหารอยย่นหน้าผากที่เป็นรอยย่นถาวร แต่ถ้าเกิดริ้วรอยเวลาแสดงอารมณ์จะไม่สามารถใช้ฟิลเลอร์ได้ เนื่องจากเป็นการเติมร่องลึกเพื่อให้ดูตื้นขึ้น ช่วยทดแทนโครงสร้างของร่างกายที่สูญเสียไป

  • แก้หน้าผากย่นโดยใช้ สารลดเลือนริ้วรอย

อีกวิธีที่ไม่ต้องผ่าตัดเพื่อลดรอยย่นหน้าผากคือการใช้ผลิตภัณฑ์ ลดเลือนริ้วรอย จะไปขัดขวางการทำงานของกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งใบหน้าให้หย่อนคล้อย ช่วยยกกระชับหน้าผาก กระชับและลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผาก สารลดเลือนริ้วรอยยอดนิยมจากประเทศอังกฤษอย่าง ABO ACTIVE หรือ โบอังกฤษ ที่นอกจากจะช่วยลดเลือนริ้วรอยอย่างตรงจุดแล้วยังช่วยยกกระชับใบหน้า ทั้งยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้กับผิว

ริ้วรอยย่นบนหน้าผาก

ดูแลตัวเองอย่างไรไม่ให้เกิดริ้วรอยย่นบนหน้าผาก ?

  • ดูแลผิวอย่างเหมาะสมและเติมความชุ่มชื้นให้ผิวเสมอ

การดูแลผิวประจำวันที่เหมาะสมคือสิ่งที่คุณเริ่มทำได้ตั้งแต่วันนี้ อาจเริ่มจากการล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีมอยส์เจอไรเซอร์ ผิวที่มีน้ำเพียงพอจะมีโอกาสเกิดริ้วรอยและปัญหาผิวน้อยลง ผิวที่ชุ่มชื้นอาจช่วยให้รอยย่นบนหน้าผากดูตื้นขึ้น เลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผิว ปราศจากสารระคายเคือง โดยเฉพาะน้ำหอม แอลกอฮอล์ สารกันเสีย และสี

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย

ผลิตภัณฑ์ลดริ้วรอย หรือดูดไขมันหน้า เป็นที่นิยมและหาซื้อได้ง่าย มีมากมายหลายแบบหลายยี่ห้อ ส่วนใหญ่มีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวดูอิ่มเอิบ กระชับ ยืดหยุ่น และปราศจากริ้วรอย ตัวอย่างของสารออกฤทธิ์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ เรตินอยด์ วิตามินเอ วิตามินซี โคเอนไซม์คิวเท็น เปปไทด์ และสารสกัดอื่น ๆ แม้จะมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าสารเหล่านี้อาจช่วยลดเลือนริ้วรอย ร่องลึกต่าง ๆ ได้ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะยืนยันว่าผลิตภัณฑ์ที่มีสารเหล่านี้สามารถลดเลือนริ้วรอยและแก้ปัญหารอยย่นที่หน้าผากได้จริง

อีกทั้งสูตรลดเลือนริ้วรอยแต่ละสูตร แต่ละยี่ห้อมีส่วนผสมที่แตกต่างกัน จึงไม่สามารถระบุได้ว่าตัวใดดีที่สุด สำหรับการลดเลือนริ้วรอย ผลลัพธ์ของการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้อาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล สารบางชนิดอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงจากการใช้ สำหรับคนที่สนใจใช้ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอย ซื้อสินค้าที่ปลอดภัย เชื่อถือได้ อย่าซื้อผลิตภัณฑ์ที่โฆษณาเกินจริงหรือเห็นผลไวผิดปกติ หากคุณมีโรคประจำตัวหรือโรคผิวหนัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด

ดังที่ได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ รังสี UV ทำให้เซลล์ผิวหนังอักเสบ ถูกแดดเผา ระคายเคือง ในระยะยาว แสงแดดอาจเป็นตัวการของปัญหาผิวต่าง ๆ มากมาย รวมถึงปัญหารอยย่นหน้าผาก รอยย่นบนใบหน้า การศึกษาจำนวนมากพบว่าการได้รับแสงแดดและรังสีมากเกินไปหรือบ่อยครั้งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสภาพผิว เช่น ฝ้า ผิวแห้ง และแก่ก่อนวัย มะเร็งผิวหนังก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เพื่อลดการทำร้ายจากแสงแดด ควรดูแลตัวเองด้วยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ๆ ก่อนออกแดดเสมอ สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดผิวของคุณจากแสงแดด ใช้ร่มเมื่อต้องออกแดด พยายามเดินหรือยืนในที่ร่มถ้าเป็นไปได้

ลดรอยย่นบนหน้าผาก

หน้าใสไม่แก่เร็วกับวิธีลดรอยย่นบนหน้าผากง่าย ๆ ได้ด้วยตนเอง

  • เทปลดรอยย่น : ใช้เทปสีขาวที่ฉีกง่าย แปะบริเวณรอยย่นบริเวณหน้าผาก หางตาก่อนนอน เพื่อช่วยให้ริ้วรอยจางลงหรือป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มักจะขมวดคิ้ว
  • นวดลดริ้วรอย : ระหว่างที่ทำการล้างหน้า ทาครีม หรือล้างด้วยสบู่ ควรนวดหน้าผากไปด้วย โดยใช้นิ้วกลางและนิ้วนางในการทำเช่นนี้ กดที่กึ่งกลางหน้าผากของคุณ จากนั้นนวดจากกึ่งกลางไปยังขมับตามแนวโค้งของคิ้ว ออกแรงกดที่จังหวะขึ้น จากนั้นกดเบา ๆ ที่จังหวะลง ทำสามครั้งแล้วจะรู้สึกผ่อนคลาย
  • นอนหงาย : การนอนตะแคงข้างเดียวเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดรอยย่นบริเวณร่องแก้ม ส่วนคนชอบนอนคว่ำ ผลคือ รอยย่นบนหน้าผาก การนอนหงายเป็นวิธีที่ดีที่สุด อีกทั้งยังทำให้เลือดไหลเวียนสะดวกอีกด้วย
  • นอนก่อน 22.00 น. : ระหว่าง 22.00 น. ถึง ตี 2 เป็นช่วงที่ร่างกายจะหลั่งโกรทฮอร์โมนมากที่สุด ฮอร์โมนนี้จะช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ แต่ถ้าคุณนอนน้อยหรือดึกเกินไป คุณจะพลาดประโยชน์ของฮอร์โมนนี้
  • ทานน้ำมันปลา : น้ำมันปลามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย น้ำมันปลาประเภทที่มาจากปลาทูน่าที่อาศัยอยู่ในทะเลน้ำลึกมีโอเมก้า 3 ที่ร่างกายไม่สามารถผลิตได้เอง โอเมก้า 3 มีส่วนช่วยให้ผิวพรรณดีและร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้
  • รับประทานผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอและวิตามินซีสูง: น้ำผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงในตอนเช้า ดื่มวันละ 1 แก้วเพื่อช่วยให้ใบหน้าขาวใส ช่วยลดริ้วรอย หรือรับประทานผลไม้สด ยกตัวอย่างเช่น ส้ม แอปเปิล ก็มีประโยชน์เช่นกัน