5 ท่าลดต้นแขน ลดแขนย้วย แบบเร่งด่วน หมดปัญหาไขมันส่วนเกิน

ท่าลดต้นแขน

หลายคนมักเข้าใจว่าสาว ๆ ที่มีต้นแขนใหญ่ แขนย้วยนั้นมักเกิดจากไขมันหรือความอ้วน ซึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยคือกล้ามเนื้อไม่กระชับ แขนใหญ่จากกรรมพันธุ์ ทำให้คนที่ผอมเกิดความไม่มั่นใจเพราะตัวเองเป็นคนที่ต้นแขนใหญ่ เมื่อต้องสวมใส่เสื้อผ้าที่ต้องโชว์ช่วงไหล่หรือต้นแขนก็จะเห็นแขนใหญ่ได้อย่างชัดเจน แต่ความกังวลเหล่านี้จะหมดไปเพราะวันนี้เราได้หาวิธีที่จะทำให้ต้นแขนดูเล็กลงได้มาฝากสาว ๆ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กลับมาอีกครั้ง

สำหรับสาว ๆ คนไหนที่กำลังหาวิธีลดต้นแขน วันนี้เราจะมาแนะนำท่าลดต้นแขนที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง และวิธีทางการแพทย์ที่จะช่วยลดต้นแขนที่ใหญ่แบบเร่งด่วนมาให้ได้ศึกษาและปฏิบัติตาม แต่ก่อนที่จะไปดูวิธีลดต้นแขน เรามาหาสาเหตุของแขนใหญ่กันก่อนว่าเกิดจากอะไร แล้วการลดต้นแขนนั้นกี่วันถึงจะเห็นผล หากไม่ต้องการออกกำลังกายจะลดต้นแขนด้วยวิธีใดได้บ้างตามมาดูกัน

แขนใหญ่ แขนย้วย เกิดจากอะไร

  • กรรมพันธุ์ สาเหตุนี้สังเกตได้จากคนที่ผอมแต่แขนใหญ่ เมื่อได้พยายามลดแล้วแต่ก็ไม่เห็นผล แขนก็ไม่เล็กลง
  • พฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยเฉพาะการรับประทานอาหารประเภทของทอด ของมัน อาหารแปรรูป อาหารที่มีไขมัน น้ำตาล หรือโซเดียมที่สูงเกินไป เมื่อรับประทานบ่อย ๆ ก็จะส่งผลทำให้ร่างกายเผาผลาญไม่หมด เกิดเป็นไขมันสะสมทำให้แขนใหญ่ได้
  • ยกของหนัก การใช้งานแขนอย่างหนัก เช่นการออกแรงยกของหนักบ่อย ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อแขนแข็งแรงและมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้มองเห็นเป็นกล้ามเนื้อก้อนใหญ่บริเวณต้นแขน

ในการตรวจเช็คว่าต้นแขนใหญ่เป็นกล้ามเนื้อหรือไขมัน จะมีวิธีเช็คคือให้ใช้มือจับบริเวณท้องแขน หากรู้สึกว่าเนื้อเหลว นุ่มนิ่ม หย่อนคล้อย จะเป็นแขนใหญ่ที่เกิดจากการสะสมของไขมันในร่างกาย แต่ถ้าจับแล้วรู้สึกแข็งตึง จะเป็นแขนใหญ่ที่เกิดจากกล้ามเนื้อ

5 ท่าลดต้นแขน

5 ท่าลดต้นแขน เห็นความเปลี่ยนแปลงใน 1 สัปดาห์

มาดูวิธีลดต้นแขนของผู้หญิงที่ง่ายและรวดเร็วกันดีกว่า เริ่มจากท่าลดต้นแขนแบบเร่งด่วนที่สามารถทำได้ทุกวัน ผู้หญิงเล่นกล้ามเป็นเรื่องปกติ และเมื่อทำเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอทุกวันก็จะเริ่มเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงภายใน 1 สัปดาห์ เป็นวิธีลดต้นแขนที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ไม่ต้องใช้พื้นที่มาก แค่มีเสื่อโยคะเพียงผืนเดียวเท่านั้น สามารถเพิ่มความสนุกโดยการเปิดทีวีหรือฟังเพลงขณะออกกำลังกายได้เลย โดยมี 5 ท่าลดต้นแขนย้วย ดังนี้

ท่าที่ 1 DOWN DOG + PLANK PUSH-UP

ท่าแรกคือให้สาว ๆ ทำท่า Plank บนเสื่อโยคะ แล้วไปสู่ท่า Down Dog โดยการยกลำตัวขึ้นในลักษณะยืดไปด้านบนเหมือนรูปสามเหลี่ยม จากนั้นหดลำตัวลงมาสู่ท่า Plank และสามารถปรับเปลี่ยนท่าได้โดยการพักเข่าในท่า Plank แล้วค่อย ๆ ยกลำตัวขึ้นในท่า Down Dog ทำแบบนี้ต่อเนื่องจับเวลา 40 วินาที

ท่าที่ 2 ARM CIRCLE

เริ่มจากท่ายืนแล้วกางแขนทั้ง 2 ข้างออก หลังจากนั้นหมุนแขนเป็นวงกลมตามทิศเข็มนาฬิกาอย่างช้า ๆ โดยรักษาระดับแขนไม่สูงกว่าหัวไหล่ ทำท่านี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 1 นาที และเพิ่มความเร็วของการหมุนไปเรื่อย ๆ ในช่วงเวลานี้

ท่าที่ 3 KNEE PUSH-UPS

ให้อยู่ในท่าเตรียมวิดพื้นในลักษณะไขว้ขายกขึ้นให้เข่าอยู่บนพื้น หลังจากนั้นทำท่าวิดพื้นช้า ๆ ทำแบบนี้ 3 เซ็ต เซ็ตละ 5 ครั้ง ท่านี้นอกจากจะช่วยยกกระชับต้นแขนด้านหลังแล้ว ยังช่วยกระชับหน้าท้องได้อีกด้วย

ท่าที่ 4 PIKE PUSH UP

เริ่มด้วยการเอามือยันพื้นแล้วยกลำตัวขึ้นในลักษณะสามเหลี่ยม พร้อมกับก้มศีรษะลง จากนั้นให้ดันลำตัวไปด้านหน้าให้ศีรษะแตะเกือบถึงพื้น ท่านี้จะคล้ายกับการวิดพื้น เหมาะกับสาว ๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นการออกกำลังกาย

ท่าที่ 5 FLOOR TRICEP DIPS

ท่านี้ให้เริ่มด้วยการนั่งยอง ๆ แล้วเอาแขนทั้ง 2 ข้างไปด้านหลัง ใช้มือยันพื้นแล้วยกลำตัวช่วงก้นขึ้น จากนั้นค่อย ๆ ยกก้นลงให้มีลักษณะเกือบชิดพื้น แต่ก้นไม่แตะพื้น ทำแบบนี้ 15 ครั้ง ทั้งหมด 3 เซ็ต

วิธีลดต้นแขนด้วยหลักโภชนาการ

วิธีลดต้นแขนด้วยหลักโภชนาการ

  • เน้นโปรตีน 

การรับประทานอาหารประเภทโปรตีนจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และช่วยกระตุ้นระบบเมตาบอลิซึม เร่งการเผาผลาญ ที่สำคัญคือช่วยทำให้อิ่มนานขึ้น โดยเลือกรับประทานโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน, ไข่, ถั่ว, อาหารทะเล และผักประเภทใบ ยิ่งถ้าได้ทำคู่ไปกับการออกกำลังกายจะยิ่งเสริมสร้างการทำงานของระบบเผาผลาญได้แบบดับเบิ้ลเลยทีเดียว

  • ลดน้ำตาล

การรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลมากเกินไปจะส่งผลให้สุขภาพไม่ดีได้ ดังนั้นจึงควรใช้วิธีลดปริมาณน้ำตาล หากเคยดื่มกาแฟใส่น้ำตาลก็เปลี่ยนมาเป็นการดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล หรือเปลี่ยนจากการดื่มน้ำผลไม้แบบกล่องมาเป็นการดื่มน้ำผลไม้คั้นสดดื่มเอง ในหนึ่งวันสามารถทานอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลไม่เกิน 4 ช้อนชาต่อวัน (16 กรัม) สาว ๆ ต้องคำนวณและจัดสรรปริมาณน้ำตาลกันให้ดี 

  • อาหารเช้าสำคัญ

อาหารมื้อเช้านั้นถือว่าเป็นมื้อที่สำคัญที่สุด ซึ่งการอดอาหารเช้ายังเป็นเหตุให้เกิดโรคอ้วนได้ เนื่องจากจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำจนร่างกายรู้สึกหิวโหยมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้รู้สึกอยากทานอาหารจำพวกประเภทไขมันและน้ำตาลที่สูงขึ้นในมื้อถัดไป

  • นับแคลอรี

การนับแคลอรีเป็นวิธีสำคัญที่ช่วยให้สาว ๆ ลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนและรักษาสุขภาพดี นอกจากนี้ยังช่วยควบคุมปริมาณพลังงานจากอาหารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมกับร่างกายในแต่ละวัน การลดน้ำหนักจะทำให้สัดส่วนร่างกายลดลงโดยรวม รวมถึงบริเวณต้นแขนด้วย

วิธีลดต้นแขน แบบเร่งด่วน โดยใช้วิธีทางการแพทย์

ยังมีสาว ๆ อีกไม่น้อยที่มีปัญหาแขนใหญ่และพยายามลดขนาดต้นแขน แม้ว่าจะพยายามควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ แต่ไขมันใต้ผิวหนังบริเวณต้นแขนยังคงที่ไม่ลดลงเท่าที่ต้องการ ส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะแนะนำวิธีทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่สามารถช่วยแก้ปัญหาของแต่ละบุคคลได้ โดยวิธีทางการแพทย์ที่จะแนะนำจะมีดังนี้

เมโสแฟตต้นแขน

  • เมโสแฟตต้นแขน

การลดต้นแขนด้วยวิธีฉีดเมโสแฟต จะเป็นการนำตัวยาที่มีฤทธิ์ในการสลายเซลล์ไขมัน ฉีดลงไปในชั้นไขมันบริเวณต้นแขน เพื่อทำให้ไขมันแตกตัว และถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบการขับถ่าย นั่นเป็นที่มาของการทำให้ต้นแขนดูเล็กลง กระบวนการลดขนาดต้นแขนด้วยเมโสแฟตนี้มีราคาไม่แพงและคุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหาเกี่ยวกับไขมันส่วนเกินบริเวณแขน หรือมีน้ำหนักตัวเยอะและต้องการลดไขมันในจุดนี้ เมื่อทำกระบวนการฉีดเมโสแฟตแล้ว ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ในช่วง 1-3 สัปดาห์แรก และผลลัพธ์ชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2-3 เดือน ส่วนความยืนยาวของผลลัพธ์จากเมโสแฟตขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังกระบวนการฉีดของแต่ละบุคคล

  • ฉีดโบท็อกลดกล้ามแขน

การฉีดโบท็อกลดกล้ามแขน ทำให้กล้ามเนื้อแขนทำงานได้ลดลงชั่วคราว เพราะโบท็อกจะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท และเกิดการคลายตัวในกล้ามเนื้อ นำไปสู่การลดขนาดของต้นแขน หลังจากการฉีดโบท็อกลดกล้ามแขนครั้งแรก ความเล็กลงของกล้ามเนื้อจะปรากฏขึ้นประมาณ 10-20% และจะเห็นผลเต็มที่ในระยะเวลาประมาณ 2-3 เดือน การใช้โบท็อกลดต้นแขนเหมาะสำหรับคนที่มีกล้ามเนื้อแขนใหญ่ แต่ในกรณีที่ต้นแขนมีขนาดใหญ่จากไขมัน การฉีดโบท็อกลดกล้ามแขนจะไม่สามารถช่วยได้ หมอแนะนำให้พิจารณาใช้เมโสแฟตหรือทำ Coolsculpting เพื่อสลายไขมันและแก้ปัญหาในจุดนั้นได้ตรงจุดมากกว่านี้

  • Coolsculpting สลายไขมันต้นแขน

การทำ Coolsculpting เพื่อลดไขมันที่ต้นแขนคือกระบวนการที่ใช้ความเย็นบริเวณผิวหนังต้นแขน เพื่อทำให้ไขมันแช่แข็งและเซลล์ไขมันตาย ซึ่งจะถูกขับออกจากร่างกายโดยธรรมชาติ ผลลัพธ์จะทำให้จำนวนเซลล์ไขมันลดลงได้ถึง 25% ในแต่ละครั้งที่ทำ หลังจากทำการรักษาต้นแขนให้มีขนาดเล็กลงและดูกระชับมากขึ้น ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ในระยะเวลา 3-4 สัปดาห์ และผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดจะเห็นได้ในระยะเวลา 3 เดือน

กระบวนการนี้สามารถทำได้ในหลายส่วนของร่างกายที่มีการสะสมไขมัน เช่น Coolsculpting ลดไขมันที่ต้นขา และลดไขมันที่หน้าท้อง นั่นเหมาะสำหรับคนที่มีปริมาณไขมันเกินปกติในระดับปานกลาง และมีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่า 35 เนื่องจากหากมีปริมาณไขมันมากหรือเป็นโรคอ้วนมาก การทำ Coolsculpting อาจจะไม่ให้ผลลัพธ์ที่ดีเท่านี้

สรุป

ท่าลดต้นแขน ที่ได้นำมาฝากในวันนี้ เป็นวิธีการลดต้นแขนที่ปลอดภัย สามารถนำไปใช้ได้จริง สามารถแก้ปัญหาต้นแขนใหญ่ได้อย่างตรงจุด เห็นผลไว ซึ่งจะต้องทำอย่างสม่ำเสมอ หากสาว ๆ คนไหนยังไม่มั่นใจว่าปัญหาต้นแขนใหญ่ของตัวเองนั้นจะเหมาะกับวิธีการแก้ไขหรือลดต้นแขนแบบไหน สามารถเข้าพูดคุยกับแพทย์ที่มีความชำนาญทางด้านนี้ ซึ่งเราขอแนะนำคลินิกเสริมความงามอย่าง รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ ที่มีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้คอยให้คำปรึกษา นอกจากนี้ยังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหา ท้องแตกลายอีกด้วย รับรองได้ว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนเมื่อได้เข้ามาใช้บริการ