YAG Laser คือเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้แสงเลเซอร์สีเขียวเพื่อกำจัดขนหรือเซลล์ผิวหนังที่ไม่ต้องการในบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น หน้า ขา และรักแร้ โดยเลเซอร์ YAG จะทำการย่อยเซลล์ผิวหนังที่ไม่ต้องการด้วยความร้อนที่สูงจนเกิดการสลายตัว
เลเซอร์ YAG นั้นเป็นเลเซอร์ที่มีความเข้มของแสงสูงและสามารถซึมผ่านผิวหนังได้ลึกเข้าไปถึงเซลล์ผิวหนังที่ต้องการกำจัดได้ง่ายขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ YAG มีประสิทธิภาพและได้ผลดีกว่าการใช้เครื่องมือกำจัดขนอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้เลเซอร์ YAG
อย่างไรก็ตาม การใช้เลเซอร์ YAG ในการกำจัดขนนั้นต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เนื่องจากการใช้งานไม่ถูกต้องอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น การเผาผิวหนัง หรือการเกิดแผลบนผิวหนังได้ ดังนั้น การตรวจสอบความเหมาะสมของผู้รับการรักษาและการเลือกที่สถานที่ที่มีคุณภาพและผู้ให้บริการที่มีความเชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญก่อนการตัดสินใจใช้เลเซอร์ YAG ในการกำจัดขนหรือเซลล์ผิวหนังที่ไม่ต้องการได้
หลักการทำงานของเครื่อง YAG Laser
YAG เป็นเทคโนโลยีคลื่นพลังงานเลเซอร์ที่ใช้กำจัดขน โดยมีความยาวคลื่นอยู่ที่ 1064 นาโนเมตร การใช้พลังงานเลเซอร์ YAG จะทำการส่งคลื่นพลังงานลงไปที่รากของเส้นขน โดยความร้อนจากเลเซอร์จะทำให้รากของเส้นขนหยุดการเจริญเติบโตและฝ่อตัวลงไปในที่สุด จากนั้นเส้นขนก็จะค่อย ๆ หลุดร่วงไปและไม่กลับมาขึ้นอีกเลย
แต่ในแต่ละครั้งที่ใช้เลเซอร์ YAG วิธีกระชับช่องคลอดแบบเร่งด่วนจะสามารถกำจัดเส้นขนได้ประมาณ 20 – 30% ของเส้นทั้งหมดในบริเวณที่ทำ ดังนั้นสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นขนด้วย YAG จะต้องทำซ้ำประมาณ 5 – 8 ครั้ง เพื่อให้เส้นขนถูกกำจัดออกให้หมด โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนหลังจากทำครั้งที่ 4 – 5 เป็นต้นไป จำนวนครั้งที่เหลือจะช่วยให้ผิวเรียบเนียนมากขึ้น
Yag เลเซอร์ เหมาะกับใครบ้าง
YAG เลเซอร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเส้นขนหรือขนพื้นผิวหนังที่อยู่ในสีดำหรือสีน้ำตาลอ่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีผิวอยู่ในกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง และหยาบกระด้าง เช่น ผิวคนเอเชีย ซึ่งการใช้เทคโนโลยีการกำจัดขนอื่น ๆ เช่น การใช้แว็กซ์ หรือ โบท็อกซ์ อาจไม่ได้ผลอย่างที่คาดหวังได้
เนื่องจากเทคโนโลยีเหล่านี้มักจะใช้กับเส้นขนที่มีสีสว่างและขนบาง นอกจากนี้ YAG เลเซอร์ ยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการกำจัดเส้นขนที่อยู่บริเวณขา แขน หรือขาปลาย โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการผิวเรียบเนียนและไม่อยากมีเส้นขนเข้มขึ้นมาใหม่ในอนาคตอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม การใช้ เลเซอร์ YAG กำจัดขนยังมีความเสี่ยงในการเกิดปฏิกิริยาของผิวหนัง เช่น การแสดงอาการแดง บวม หรือเกิดแผลผิวหนัง ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนการตัดสินใจใช้ เลเซอร์ YAG กำจัดขน และระวังผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการใช้เทคโนโลยีนี้
ข้อดีข้อเสียของการกำจัดขนด้วย เลเซอร์ YAG
การกำจัดขนด้วย เลเซอร์ YAG มีข้อดีและข้อเสียดังนี้
ข้อดี
- การกำจัดขนด้วย YAG เลเซอร์ มีผลลัพธ์ที่ดีและตรงกับวัตถุประสงค์ โดยไม่ทำให้เกิดความเจ็บปวดหรือเสียหายต่อผิวหนังมากนัก
- การใช้ เลเซอร์ YAG สามารถกำจัดขนได้หลายส่วนของร่างกาย เช่น ขา แขน หน้าอก และขนใต้แขน ซึ่งสะดวกและประหยัดเวลาในการทำครั้งละมาก
- ผลการกำจัดขนด้วย YAG เลเซอร์ สามารถยืดเวลาได้นานขึ้นเมื่อเทียบกับวิธีการกำจัดขนอื่น ๆ เช่น โกน หรือ waxing
ข้อเสีย
- ค่าใช้จ่ายสำหรับการกำจัดขนด้วย เลเซอร์ YAG จะสูงกว่าวิธีการกำจัดขนอื่น ๆ เช่น โกน หรือ waxing
- ผลข้างเคียงหลังการใช้ YAG เลเซอร์ อาจเกิดขึ้นได้ เช่น ผิวหนังบวม แดง หรือมีแผลบริเวณที่ใช้ YAG Laser รักษา
- การกำจัดขนด้วย YAG เลเซอร์ ต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีและถูกต้อง ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้ต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ดังนั้น การใช้ เลเซอร์ YAG เพื่อกำจัดขนนั้น ควรพิจารณาข้อดีและข้อเสียอย่างละเอียด และคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปริมาณขนที่ต้องการกำจัด ลักษณะผิวหนัง
นอกจาก YAG เลเซอร์ แล้วยังมีเลเซอร์กำจัดรูปแบบอื่น ๆ อีกหรือไม่
YAG Laser ในปัจจุบันยังมีเลเซอร์กำจัดขนที่ใช้ในการกำจัดขนได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่นิยมใช้งานอย่างแพร่หลาย นอกจาก เลเซอร์ YAG แล้วยังมีเลเซอร์แบบอื่น ๆ เช่น Diode Laser, Alexandrite Laser, IPL (Intense Pulsed Light) ซึ่งแต่ละชนิดของเลเซอร์จะมีความเหมาะสมกับผิวหนังและปัญหาขนบนผิวหนังที่แตกต่างกันไป
ดังนั้นการเลือกใช้เลเซอร์หรือเลือกกินคอลลาเจนตอนไหนดีในการกำจัดขนควรจะพิจารณาความเหมาะสมของเทคโนโลยีเลเซอร์กับผิวหนังและปัญหาขนบนผิวหนังของแต่ละบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่มีผลข้างเคียงหรือความเสี่ยงต่อผิวหนังเช่นการเกิดแผลเป็น คลายเครียดผิวหนัง หรือการเปลี่ยนแปลงสีผิวหนัง อีกด้วย
YAG Laser ทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล
การทำ YAG เลเซอร์ ต้องดูแลรักษาผิวหนังที่ถูกทำด้วยความระมัดระวังเพื่อให้ผลลัพธ์ดีและปลอดภัย โดยปกติแล้วการทำ YAG Laser จะทำซ้ำประมาณ 3-6 ครั้งโดยครั้งละ 2-4 สัปดาห์ ซึ่งขึ้นอยู่กับปัญหาและสภาพผิวหนังของแต่ละบุคคลการทำ YAG Laser จะช่วยลดเลือนริ้วรอยและเล็บเล็มที่เกิดจากแผลเป็น การทำให้ผิวหนังดูกระชับและเนียนเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ที่ต้องการทำ YAG Laser ต้องมีความตั้งใจและอดทนต่อการทำซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม การทำYAG Laser ไม่ใช่วิธีการรักษาผิวหนังที่เหมาะสมสำหรับทุกคน ผู้ที่มีปัญหาเชิงความสมบูรณ์บนผิวหนังหรือผิวหนังที่เคยมีการรักษาด้วย เลเซอร์ YAG มาก่อนอาจต้องปรึกษาแพทย์ก่อนการทำให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับเจตนาและสภาพผิวหนังของตนหรือไม่
การทำ เลเซอร์ YAG เจ็บไหม
การทำ เลเซอร์ YAG มีความอ่อนโยนต่อผิวพรรณ จึงทำให้มีการปล่อยแก๊สเย็นออกมาเพื่อลดความรู้สึกแสบร้อนในระหว่างการยิงเลเซอร์ ทำให้ผู้ที่เข้ารับการรักษาไม่รู้สึกเจ็บและแสบร้อนได้ แต่ถ้าผิวที่ต้องการรักษามีความบอบบาง อาจเกิดความรู้สึกอุ่น ๆ ยิบ ๆ บนผิวหนังได้ การรู้สึกเจ็บขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำ YAG เลเซอร์ ซึ่งแพทย์อาจพิจารณาทายาชาเพื่อลดความเจ็บปวดให้น้อยที่สุด
และแนะนำให้ผู้เข้ารับการรักษาประคบเย็นเพื่อลดความระคายเคืองได้ในระหว่างหลังการทำ YAG Laser โดยไม่ควรอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่ที่แดดจัด เป็นเวลานาน ๆ และควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป อีกทั้งยังควรงดกิจกรรมหรือการเล่นกีฬาที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก เช่น การอาบแดด ปั่นจักรยาน และงดการทาสครับบริเวณที่ทำ YAG Laser ด้วย
ข้อควรระวังก่อนทำYAG Laser สำหรับการดูแลผิวหน้าเบื้องต้น
- ไม่ควรทาครีมที่มีส่วนผสมทำให้ผลัดเซลล์ผิวหรือส่วนผสมที่ก่อให้เกิดอาการระคายเคือง
- ควรงดการสครับผิวในบริเวณที่ต้องการทำ YAG เลเซอร์
- ควรงดการโกน ถอน และแว็กซ์ขนก่อนทำ เลเซอร์ YAG
- ควรงดการโดนแสงแดดจัด งดอาบแดด งดซาวน่า ก่อนเข้ารับการเลเซอร์ขน และควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป
- ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่าย ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนทำเลเซอร์กำจัดขน
การปฏิบัติตามข้อควรระวังเหล่านี้จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงหลังการทำ เลเซอร์ YAG และช่วยให้ผิวหน้าของคุณสวยงามและมีความประณีตอย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนทำเพื่อให้ได้คำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของคุณด้วย
หลังทำ YAG เลเซอร์ ควรดูแลตัวเองอย่างไร
- หลังทำ YAG เลเซอร์ อาจทำให้ผิวหนังมีรอยแดงเล็กน้อย และจะหายได้เองใน 3-4 ชั่วโมง
- หลังทำ เลเซอร์ YAG สามารถประคบเย็นเพื่อลดการระคายเคืองได้
- งดการอาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำอุ่น บริเวณที่ทำ YAG เลเซอร์
- หลีกเลี่ยงในการอยู่ในที่ที่แดดจัด เป็นเวลานาน ๆ และควรทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ ขึ้นไป
- งดทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬากลางแจ้ง ที่ทำให้มีเหงื่อออกมาก เช่น การอาบแดด, ปั่นจักรยาน รวมถึงงดการว่ายน้ำ
- งดการทำสครับผิวบริเวณที่ทำ YAG เลเซอร์
ต้องการกำจัดขนด้วย YAG Laser ทำที่ไหนดี
การเลือกทำเลเซอร์กำจัดขนทุกชนิด หรือการทำ YAG Laser ที่ไหนดีควรเริ่มต้นจากการเลือกแพทย์ผู้ชำนาญการเป็นอันดับแรก โดยควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และทักษะเฉพาะด้านในการรักษาผิวพรรณ ที่สามารถปรับค่าความเข้มข้นของพลังงานให้อยู่ในช่วงความยาวคลื่นที่เหมาะสม ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ ควรเลือกคลินิกที่มีความเชื่อถือได้และมีเครื่องเลเซอร์กำจัดขนที่มีมาตรฐาน
ราคาที่เหมาะสม และมีการบริการที่ดี เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีและปลอดภัย นอกจากนี้ ยังควรใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีการรักษาแต่ละประเภท เพื่อให้มั่นใจในการเลือกทำเลเซอร์กำจัดขนที่เหมาะสมกับตัวเองและได้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด