แก้มไม่เท่ากัน ทำให้ใบหน้าไม่สมส่วน ปรับแบบไหนดี ศัลยกรรมช่วยได้

แก้มไม่เท่ากัน อาจเป็นเรื่องที่คุณรู้สึกไม่พอใจในลักษณะของใบหน้าของคุณ ศัลยกรรมอาจช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้ โดยศัลยแพทย์สามารถปรับแต่งสัดส่วนแก้มโดยใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การเสริมแก้ม ซึ่งมีวัสดุเสริมและเทคนิคที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็น การเสริมแก้มด้วยฟิลเลอร์ การศัลยกรรมสร้างแก้ม หรือการนำมาสเตอรอยด์เพื่อให้ได้รูปร่างที่สมดุลของใบหน้าคุณเป็นต้น อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจที่จะทำศัลยกรรมถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องตัดสินใจให้รอบคอบ

ก่อนที่จะเข้ารับบริการคุณควรที่จะศึกษาข้อมูลให้ถี่ถ้วนกับแพทย์ที่มีความชำนาญด้านศัลยกรรมบนใบหน้า เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับตัวคุณเอง ศัลยกรรมบนใบหน้าอาจมีความเสี่ยงและผลข้างเคียงที่ต้องพิจารณาด้วย เช่น การบวม ฟันแตก หรือการติดเชื้อ ดังนั้นคุณควรศึกษาข้อมูลและรับฟังคำแนะนำจากแพทย์อย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจในการทำศัลยกรรม

ปัญหาแก้มที่ไม่เท่ากันเกิดจากหลายสาเหตุที่อาจยังไม่รู้จักอย่างแท้จริง และนี่อาจเป็นสาเหตุของปัญหารูปหน้าที่สาว ๆ ไม่พึงพอใจ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง

• พันธุกรรม: ปัจจัยด้านพันธุกรรมถือเป็นสาเหตุที่ยากที่สุดในการหลีกเลี่ยง หากพ่อแม่ของคุณมีปัญหาใบหน้าเบี้ยว จะส่งผลต่อรุ่นลูกได้อย่างไม่แน่นอน
• การเจริญเติบโต: เมื่อเพิ่มอายุขึ้น ร่างกายของเราก็พร้อมที่จะเติบโตตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม มีจำนวนผู้คนที่กระดูกบางส่วนหยุดการเติบโตอย่างไม่เต็มที่ ส่งผลให้เกิดปัญหาโครงหน้าที่ไม่สม่ำเสมอ พื้นที่ที่พบปัญหามากที่สุดอยู่ที่แก้ม กรามทั้งสองข้างและบริเวณคาง
• ไขมันสะสม: พื้นที่บริเวณแก้มของเราเป็นจุดที่มีการสะสมไขมันสูงที่สุดครับ ดังนั้นหากคุณบริโภคอาหารที่มีไขมันสูงอยู่บ่อย แก้มทั้งสองข้างจะขยายใหญ่ขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ในบางกรณี การขยายของแก้มอาจไม่เท่ากัน ซึ่งสามารถทำให้เกิดปัญหาแก้มขนาดไม่เท่ากันตามมาได้
• การใช้ชีวิต: วิถีชีวิตประจำวันของเรามีผลกระทบต่อสุขภาพในหลายด้าน ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นอาจแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมการใช้ชีวิตของแต่ละคน เช่น การนอนตะแคงหรือเคี้ยวอาหารข้างเดียวเป็นประจำอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณแก้มมีขนาดที่ไม่เท่ากันระหว่างด้านซ้ายและด้านขวา นอกจากนี้ยังส่งผลให้กระดูกขากรรไกรเติบโตไม่เท่ากันอีกด้วย
• การทำฟัน: สำหรับคนที่มี แก้มไม่เท่ากัน อาจมีสาเหตุมาจากการถอนฟัน จัดฟัน หรือใส่ครอบฟันที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากกระบวนการดังกล่าวสามารถส่งผลกระทบต่อกระดูกและโครงสร้างของใบหน้าได้โดยตรง เช่นการทำฟันแฟชั่นที่ไม่ปลอดภัย อาจส่งผลเสียต่อใบหน้าได้ ดังนั้นควรเลือกที่จะทำฟันกับทันตแพทย์เท่านั้น เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

วิธีเริ่มต้นในการตรวจสอบความสมดุลของแก้มทั้งสองข้างคือการใช้เทคนิคที่ทั่วโลกรับรู้และนิยมใช้ในการวัดสัดส่วนของใบหน้า โดยท่านจะใช้วิธีการวัดแบบตามแนวตั้งแบ่งออกเป็น 5 ส่วนหรือเรียกว่า “Vertical Fifths” ซึ่งจะช่วยให้เราเห็นส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน วิธีการเช็คก็ง่ายมาก เพียงแค่ถ่ายรูปใบหน้าตรงแล้วเริ่มวาดเส้นแบ่งสัดส่วน โดยในแต่ละส่วนจะเป็นสัดส่วน 1/5 หากเราพบจุดที่เกินเส้นแบ่งออกมา แสดงว่าใบหน้าในจุดนั้นมีความใหญ่เกินสัดส่วนในอุดมคติ เทคนิคนี้ยังช่วยให้เราสามารถระบุได้ว่าแก้มทั้งสองข้างไหนมีปัญหามากที่สุด และยังช่วยให้เราสามารถระบุความสมดุลของดวงตา จมูก และปากได้อีกด้วย

หากใครที่มีแก้มไม่เท่ากันมากซึ่งสังเกตได้ง่ายจากการใช้กระจก เพียงแค่มองในกระจกจะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ฝั่งไหนของแก้มมีความเบี้ยวและใหญ่มากกว่ากัน ซึ่งปัจจุบันนี้จะมีการใช้ฟิลเตอร์และแอปต่าง ๆ เพื่อวิเคราะห์สัดส่วนใบหน้าของตนเอง ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีมาก ๆ ช่วยให้เรารู้จักและเข้าใจรูปหน้าและปัญหาของตนเองได้ง่ายยิ่งขึ้น

• ความสมดุล: ใบหน้าที่สมดุลแสดงถึงความสม่ำเสมอของคุณสมบัติและความสมดุลของรูปร่างใบหน้า สัดส่วนที่ดีจะมีองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น คางและหน้าผากที่เท่ากัน และริมฝีปากที่ถูกต้องและสม่ำเสมอกัน
• สัดส่วนของดวงตา: ดวงตาถือเป็นจุดสำคัญของใบหน้าที่มีผลอย่างมากต่อความสวยงาม สัดส่วนที่ดีคือ ระยะห่างระหว่างดวงตาควรเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของความกว้างของใบหน้า และระยะห่างระหว่างดวงตากับคางควรเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของความยาวของใบหน้า
• สัดส่วนของจมูก: จมูกเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ต้องคำนึงถึงในการวัดสัดส่วนของใบหน้า สัดส่วนที่เหมาะสมคือ ระยะห่างระหว่างดวงตากับจมูกควรเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของความกว้างของใบหน้า
• ริมฝีปาก: สัดส่วนที่ดีของริมฝีปากคือ ความยาวของริมฝีปากควรเท่ากับครึ่งหนึ่งของระยะห่างระหว่างดวงตาถึงคาง
• รูปร่างรอบแก้ม: ใบหน้าที่ดีควรมีแก้มที่ไม่ได้ยกขึ้นหรือย่นออกมามากนัก แต่ก็ไม่ควรมีแก้มที่เบ่งออกไปจนเกินไป

ในกรณีที่กระดูกยุบตัวและเนื้อยุบตัวเกิดขึ้น จะทำให้แก้มและหน้าไม่เท่ากันต้องทำให้หน้าเรียวลดแก้ม การแก้ไขปัญหานี้สามารถทำได้โดยการเติมฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าให้สม่ำเสมอ โดยเฉพาะสำหรับการยกหน้าที่เรียกว่า “รุ่นที่ใช้สำหรับยกหน้าเฉพาะ” เมื่ออายุเพิ่มขึ้น ผิวหน้าจะเกิดการเปลี่ยนแปลง สูญเสียความกระชับ และหย่อนคล้อยลง หน้าจึงตกตามแรงโน้มถ่วง

นอกจากนี้ยังมีการลดลงของชั้นไขมันใต้ผิวหนัง และชั้นเนื้อเยื่อ SMAS (Superficial MusculoAponeurotic system) ที่เปลี่ยนไป รวมถึงชั้นกระดูกที่ยุบตัวลง ทั้งใต้ตาและร่องแก้ม ซึ่งทำให้เอ็นยึดผิวหนังหรือ Retaining Ligament เหยียดตัวออกไป การฉีดฟิลเลอร์ยกหน้าหรือสารเติมเต็มไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic acid : HA) สามารถเติมเต็มริ้วรอยลึก ปรับรูปหน้าให้ยกกระชับและเพิ่มมิติให้แก่ใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในกรณีที่หน้าไม่เท่ากันและผิวเริ่มหย่อนลดลงเรื่อย ๆ และมีการสะสมของไขมัน การใช้เทคนิค Hifu สามารถช่วยยกกระชับผิวหน้าและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้าให้กระชับและเต่งตึงขึ้น ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้เครื่องมือการยกกระชับนี้ยังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในคลินิกเสริมความงาม

แก้มไม่เท่ากัน แก้ยังไง สามารถใช้ฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นกระบวนการทางเสริมความงามที่ใช้เพื่อปรับรูปร่างและยกกระชับในบริเวณแก้มของใบหน้า ฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะสำหรับคนที่มีลักษณะแก้มแบบที่ไม่ชัดเจน หรือต้องการเพิ่มความเต่งตึงในบริเวณนี้ เช่น ลดริ้วรอยแก้มลาย เติมปริมาณให้แก้มดูเต่งตึง หรือสร้างมิติให้ใบหน้าดูสมดุลมากขึ้น

การฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเหมาะสำหรับผู้หญิงและผู้ชายที่ต้องการปรับปรุงลักษณะใบหน้า อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้มเป็นเรื่องส่วนบุคคล ควรพิจารณาอย่างรอบคอบโดยการพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงาม ที่จะให้คำปรึกษาและประเมินผลประโยชน์และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้อง

การฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมร่องแก้มไม่เท่ากันเพื่อให้กลับมาเท่ากันเป็นกระบวนการที่คลินิกเสริมความงามนิยมใช้กัน ซึ่งคลินิกของเรามีทีมคุณหมอที่ผ่านการฝึกฝนจนเกิดความเชี่ยวชาญในการดูแล สามารถฉีดฟิลเลอร์เพื่อเติมร่องแก้มให้เป็นรูปทรงที่มีความสม่ำเสมอและเท่ากัน

• การประเมินและการปรึกษา: ในขั้นตอนแรก คุณจะต้องนัดหมายกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินสภาพร่องแก้มของคุณ แพทย์จะฟังความคิดเห็นและความต้องการของคุณเพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมสำหรับคุณ
• การฉีดฟิลเลอร์: เมื่อคุณและแพทย์ตกลงกันเรื่องการรักษาและปริมาณฟิลเลอร์ที่จะฉีด แพทย์จะใช้เข็มเล็ก ๆ เจาะผิวหนังและฉีดฟิลเลอร์ลงในร่องแก้มที่ต้องการ กระบวนการนี้ใช้เวลาไม่นาน และมักจะไม่ต้องการการนอนค้างคืนในโรงพยาบาล
• การฟื้นฟูและการดูแล: หลังจากการฉีดฟิลเลอร์เติมร่องแก้ม คุณอาจมีบาดแผลเล็ก ๆ หรือบวมเล็กน้อยที่จุดที่ฉีด แพทย์อาจแนะนำให้คุณประคบเย็นหรือใช้ยาทาผิวหนังเพื่อลดอาการบวม ในบางกรณี คุณอาจถูกแนะนำให้หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางหรือการดันร่องแก้มในช่วงเวลาหลังจากการรักษา
• การติดตาม: หลังจากการรักษาด้วยฟิลเลอร์เติมร่องแก้ม คุณจะต้องนัดหมายกับแพทย์เพื่อการติดตามประเมินผลการรักษา แพทย์อาจแนะนำให้คุณเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์เพิ่มเติมหรือดำเนินการอื่น ๆ ที่จะช่วยให้ผลลัพธ์ดีขึ้นได้

ควรจำไว้ว่าผลลัพธ์ของการฉีดฟิลเลอร์เติมร่องแก้มอาจแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล และมีระยะเวลาในการดูผลแตกต่างกันไป คุณควรพูดคุยกับแพทย์เพื่อทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์เติมร่องแก้มและคำแนะนำสำหรับกระบวนการรักษา

แก้มไม่เท่ากันเป็นปัญหาที่ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน ดังนั้นการปรับแบบใบหน้าเพื่อให้แก้มเท่ากันเป็นเรื่องที่ควรพิจารณา การที่จะปรับแบบใบหน้าได้ดีและปลอดภัย การตัดสินใจเลือกปรับรูปแบบใบหน้าควรพิจารณาในมิติที่หลากหลาย เช่น โครงสร้างใบหน้าเดิม ความต้องการและความคาดหวังของผู้รับบริการ รวมถึงคำแนะนำและคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในคลินิก ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับกระบวนการที่เลือกและผลลัพธ์ที่คาดหวัง อีกทั้งต้องระมัดระวังในกระบวนการศัลยกรรมและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้