เซลลูไลท์คืออะไร ทำไมผู้หญิงหลาย ๆ คนถึงกังวลใจ 

เซลลูไลท์

เซลลูไลท์ คือ ผลมาจากเซลล์ก้อนไขมันใต้ผิวหนังที่มีขนาดใหญ่ ที่ทำให้ผิวดูเป็นก้อน เป็นผิวขรุขระหรือมีริ้วรอยนูนขึ้นมาในผิวหนัง มักพบบริเวณต้นขา สะโพก หรือหน้าท้อง หากมีเซลลูไลท์ผิวบริเวณดังกล่าวจะมีลักษณะเหมือนผิวส้ม เซลลูไลท์พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เซลลูไลท์ไม่อันตราย แต่หลายคนอาจต้องการกำจัดมัน เพื่อภาพลักษณ์ที่ดูดีของตนเอง ซึ่งสามารถปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือศัลยแพทย์เพื่อหาทางแก้ไขดูดไขมันต้นแขนได้

การเกิดเซลลูไลท์

  • เชื่อว่ากลไกการเกิดเซลลูไลท์เกิดจากเซลล์ไขมันในชั้นใต้ผิวหนัง ชั้นนี้อยู่ใต้ผิวหนังจะบวมและมีพังผืดปกคลุม ทำให้เกิดการรวมตัวของเซลล์ไขมันเป็นกลุ่มก้อนและมีลักษณะเป็นรอยหยักจากภายนอก อธิบายกลไกการเกิดได้ดังนี้
  • เซลล์ไขมันบวมเนื่องจากไขมันสะสม มีอยู่ในเซลล์จำนวนมาก
  • ผนังหลอดเลือดของเซลล์ไขมันรั่ว ทำให้มีน้ำซึมเข้าและออกจากเซลล์ไขมัน ทำให้เกิดการคั่งของน้ำ
  • การระบายน้ำเหลืองไม่ดี
  • เซลล์ไขมันรวมตัวกันล้อมรอบด้วยคอลลาเจนซึ่งขัดขวางการไหลเวียนของเลือด
  • เนื้อเยื่อเกี่ยวพันจะดึงรั้ง ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังเห็นเป็นคลื่นไม่เรียบเนียน

การเกิดเซลลูไลท์

สาเหตุของการเกิดเซลลูไลท์คือ

  • ฮอร์โมนมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ร่างกายผลิตเซลลูไลท์ ดังนั้นเซลลูไลท์จึงพบได้บ่อยในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย และพบได้บ่อยในผู้ที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือหลังคลอดบุตร
  • อาหาร (Diet)การรับประทานอาหารที่มีไขมัน น้ำตาล และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เช่น ของทอด ของหวาน สุรา ในปริมาณมาก จะทำให้เกิดการสะสมของไขมันภายในเซลล์ไขมันซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของเซลลูไลท์
  • สูบบุหรี่ (Smoking) นิโคตินในบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดตีบ ทำให้เลือดไปเลี้ยงเซลล์ไขมันและพังผืดไม่เพียงพอ ซึ่งจะทำให้เกิดเซลลูไลท์ได้
  • การขาดการออกกำลังกายและการดื่มน้ำไม่เพียงพออาจทำให้น้ำเหลืองไหลเวียนได้ไม่ดี ทำให้เซลลูไลท์ก่อตัวได้ง่ายขึ้น
  • ความเครียด (High stress) ความเครียดจะทำให้เกิดการหลั่งสารกลุ่ม catecholamines  ซึ่งเป็นสารกลุ่มฮอร์โมนที่มีส่วนในการกระตุ้นให้เกิดเซลลูไลท์

ประเภทของเซลลูไลท์

  1. Soft Cellulite เเซลลูไลท์พบได้บ่อยในผู้หญิงอายุ 20-30 ปี มักมีลักษณะเป็นก้อนเล็ก ๆ และมักจะเป็นเส้นหยักที่อ่อนนุ่ม สาเหตุส่วนใหญ่มาจากพันธุกรรม
  2. Hard Cellulite เซลลูไลท์มักพบในผู้หญิงอายุ 20-40 ปี มีลักษณะเป็นก้อนเล็กและแข็ง เมื่อบีบจะเห็นก้อนแข็งเล็ก ๆ ชัดเจน มักพบที่ก้นและสะโพก
  3. Flaccid Cellulite เซลลูไลท์มักพบในผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 40 ปี และมักเป็นผลมาจากการขาดการออกกำลังกาย มักพบบริเวณหน้าท้อง รอบเอว ปลายแขน และคาง เป็นก้อนไขมันที่นิ่มและมีลักษณะเป็นก้อน
  4. Edmatous Cellulite เป็นเซลลูไลท์ที่มักเกิดกับคนที่เลือดไหลเวียนไม่ดี การคั่งของน้ำเหลืองอาจทำให้ดูเหมือนบวมน้ำเมื่อกด และมักปรากฏที่สะโพกและต้นขา ซึ่งเป็นบริเวณที่ผิวหนังบอบบางและมองเห็นเส้นเลือดได้ชัดเจน
  5. Mixed Cellulite เป็นรูปแบบที่พบได้บ่อยที่สุดของเซลลูไลท์ซึ่งพบได้ในคน ๆ เดียวกัน มักพบในผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และในผู้ใหญ่ที่ไม่ออกกำลังกาย หรือผู้ที่ชอบกินไขมัน ของทอด น้ำตาล และแป้งมากเกินไป

พัฒนาการเซลลูไลท์

พัฒนาการของเซลลูไลท์

ระยะที่ 1 : เป็นระยะที่เริ่มมีพังผืดเกิดขึ้นแต่ไม่มาก ยืนหรือนอนก็ยังสังเกตไม่ได้ แต่เมื่อลอง บีบเนื้อบริเวณนั้นดูปรากฏว่ามีลักยิ้มเกิดขึ้น

ระยะที่ 2 : รอยบุบยังไม่เห็นแต่เมื่อบีบดูเนื้อจะพบว่าเนื้อมีรอยบุบมากขึ้น

ระยะที่ 3 : คุณจะเริ่มเห็นรอยเซลลูไลท์ได้ชัดเจนขณะยืน ถ้าไม่บีบจะไม่เห็นรอยตอนนอน

ระยะที่ 4 :ผิวเปลือกส้มสามารถมองเห็นได้ไม่ว่าจะยืนหรือนอน ไม่จำเป็นต้องบีบแต่อย่างใด ระยะนี้เป็นการสะสมของเซลลูไลท์เป็นเวลานานและรักษายากที่สุด

รักษาเซลลูไลท์อย่างไร ?

ไม่มีทางรักษาให้ เซลลูไลท์ หายขาดได้ แต่สามารถช่วยทำให้ผิวบริเวณที่มีเซลลูไลท์ดูดีขึ้นหรืออย่างน้อยก็ทำให้หายไปได้ชั่วคราว การรักษาเซลลูไลท์มีดังนี้

ลดน้ำหนัก การออกกำลังกายหรือการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพเพื่อลดน้ำหนักสามารถปรับปรุงลักษณะของผิวที่หยาบกร้านหรือแตกลายได้ แต่การลดน้ำหนักไม่ได้ช่วยให้เซลลูไลท์หายไปอย่างสมบูรณ์ แต่สามารถทำให้ผิวดูดีขึ้นหรือกระชับขึ้นและช่วยให้คุณออกกำลังกายได้ทั้งแบบแอโรบิกและบริหารกล้ามเนื้อให้แข็งแรง

ครีมเซลลูไลท์ โดยส่วนใหญ่ครีมเหล่านี้อ้างว่าช่วยละลายไขมันละทำให้ผิวดูเรียบขึ้นครีมเซลลูไลท์หลายชนิดมีตัวยา aminophylline Aminophylline เป็นยาตามใบสั่งแพทย์ที่ใช้ในการรักษาโรคหอบหืด ไม่มีหลักฐานว่าครีมเหล่านี้มีผลกับเซลลูไลท์ อาจเป็นอันตรายสำหรับผู้ใช้บางคน ผลที่ตามมาอาจเกิดจากการตีบหรือตันของหลอดเลือดและการคายน้ำของผิว สิ่งนี้เป็นอันตรายต่อผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนโลหิต และอะมิโนฟิลลีนยังสามารถทำให้เกิดอาการแพ้ในบางคน

เลเซอร์และระบบความถี่คลื่นวิทยุ (Lasers & Radiofrequency Systems) การใช้อุปกรณ์ที่ใช้พลังงานเลเซอร์ในการกำจัดเซลลูไลท์โดยการสลายไขมันใต้ผิวหนัง โดยทำลายเนื้อเยื่อในชั้นใต้ผิวหนังและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุและแสงอินฟราเรดจะช่วยลดไขมันและสลายเซลลูไลท์โดยใช้อุปกรณ์ที่ยิงแสงไปที่ชั้นไขมันเพื่อสลายพังผืดที่ขวางกั้นชั้นไขมันและสลายเซลล์ไขมัน

การดูดไขมัน (Liposuction) ศัลยแพทย์จะสอดท่อโลหะบาง ๆ เข้าไปในชั้นไขมันเพื่อสลายเซลล์ไขมันและดูดเซลล์ไขมันออกแต่ไม่ได้กำจัดเซลลูไลท์ ปัจจุบันมีการใช้เลเซอร์ช่วยในการดูดไขมันหน้าท้อง สลายไขมันและกระชับผิวในเวลาเดียวกัน 

การทำทรีตเมนต์ตามคลินิก เพื่อกำจัดเซลลูไลท์ด้วยการสลายเซลลูไลท์ คุณอาจต้องการการดูแลอย่างมืออาชีพ รวมถึงการลดน้ำหนัก ออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร นวดอโรมา (ใช้น้ำมันหอมระเหยที่สกัดจากพืชซึ่งสามารถดึงสิ่งสกปรกออกจากผิวหนังได้) และการนวดตัว(เพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและปลดปล่อยของเสีย) หลังการทำทรีตเมนต์ประมาณ 1-2 สัปดาห์ คุณจะรู้สึกได้ว่าผิวบริเวณนั้นจะอ่อนตัวลง

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าวิธีการข้างต้นมีแนวโน้มที่ดีที่จะพัฒนาให้มีประสิทธิภาพในการช่วยขจัดเซลลูไลท์ในอนาคต แต่ในปัจจุบัน วิธีที่ดีที่สุดการออกกำลังกายและการลดน้ำหนักเป็นสองวิธีที่ได้ผลดีที่สุดในการช่วยแก้ปัญหาเซลลูไลท์ การออกกำลังกายแบบแอโรบิคและการฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเป็นสองวิธีที่ได้ผลดีที่สุดในการช่วยแก้ปัญหาเซลลูไลท์ ควบคู่ไปกับการรับประทานผักและผลไม้หรือไฟเบอร์

การรักษาเซลลูไลท์

การป้องกันและการรักษาเซลลูไลท์

  • อาหาร แนะนำให้กินอาหารที่มีไขมันต่ำและมีเส้นใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ เมล็ดธัญพืช และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง อาหารรสจัด รวมถึงแอลกอฮอล์
  • แนะนำงดสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงภาวะเครียด
  • การออกกำลังกายเป็นประจำจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นและปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดและระบบน้ำเหลือง
  • ดื่มน้ำมาก ๆ แนะนำให้ได้อย่างน้อยวันละ 8 แก้วขึ้นไป

การรักษาด้วยเทคโนโลยีและเลเซอร์ ปัจจุบันมีอุปกรณ์และเลเซอร์มากมายที่สามารถรักษาเซลลูไลท์ ได้ดีและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา เช่น Unipolar และ Bipolar radiofrequency ร่วมกับแสงหรือแสงเลเซอร์และการนวด (Messages)ที่กำลังได้รับความนิยมมากในปัจจุบันคือ Velashape2 เนื่องจากเป็นรุ่นใหม่ที่พัฒนามาจาก Velasmooth และ Bell-shaped ทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น ผลข้างเคียง น้อยลง และขณะรักษารู้สึกสบายตัว ไม่เจ็บ แต่ยังสามารถรักษาได้หลากหลาย พื้นที่ในครั้งเดียว

Liposuction และLaser-assisted liposuction  เริ่มมีการดูดไขมัน (Liposuction) มารักษาภาวะเซลูไลท์แต่โดยส่วนมากการดูดไขมันมากได้ผลดีกับทรีตเมนต์กระชับสัดส่วนซึ่งลดไขมันเฉพาะที่ มีประสิทธิภาพน้อยกว่าในการรักษาเซลลูไลท์หรือผิวเปลือกส้ม การลดเซลลูไลท์และการกระชับผิวเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ดี และเวลาพักฟื้นหลังการรักษาก็น้อยกว่ามาก