อายุน้อยแต่มีร่องแก้ม ทำให้ดูมีอายุ ทำอย่างไรดี ?

อายุน้อยแต่มีร่องแก้ม

คนหนุ่มสาวอาจมองเห็นหน้าเป็นกระ ร่องแก้ม หรือร่องน้ำหมากบริเวณใบหน้า ซึ่งทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ โดยปกติคนเราจะเริ่มมีรอยพับของร่องแก้มหรือริ้วรอยแห่งวัยเมื่ออายุ 30 ปี แต่ในบางกรณีก็สามารถเกิดขึ้นได้เร็วถึง 20 ปี ใครที่อายุยังน้อยแต่มีร่องแก้มและริ้วรอยแล้วไม่สบายใจควรอ่านบทความนี้ก่อน คุณหมอได้รวบรวมข้อมูลปัญหา วิธีแก้ไข วิธีป้องกัน ที่จะทำให้หนุ่ม ๆ สาว ๆ อายุน้อยแต่มีร่องแก้มหมดปัญหาหรือเกิดได้น้อยที่สุดนั่นเอง

ร่องแก้ม คืออะไร ?

ร่องแก้ม คือ เนื้อแก้มส่วนบนที่หย่อนคล้อยจะกองอยู่เหนือร่องแก้ม เกิดเป็นเส้นเอียงข้างแก้ม เหนือปาก และยาวลงมาจนถึงมุมปาก ตำแหน่งนี้หลายคนมักเข้าใจผิดว่ารอยย่นระหว่างร่องแก้มกับเส้นยิ้มคืออันเดียวกัน แต่ความจริงแล้วแต่ละตำแหน่งมีความแตกต่างกัน ร่องแก้มอยู่บริเวณข้างแก้มเหนือปากลำห้วย รอยเหล่านี้ขยายจากด้านข้างของปากลงไปที่มุมปาก ทั้งริ้วรอยร่องแก้มและร่องน้ำสามารถเกิดได้กับคนทุกวัย จากหลายสาเหตุ ความเร็วที่เกิดขึ้นจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล

อายุน้อยแต่มีร่องแก้ม เกิดจาก

อายุน้อยแต่มีร่องแก้ม เกิดจากอะไร?

เคยสงสัยไหมว่าทำไมบางคนที่อายุเท่ากันถึงไม่ค่อยมี ร่องแก้ม หรือริ้วรอยเหมือนเรา? ทำไมเราถึงเป็นคนเดียวที่อายุน้อยและเจอปัญหาเหล่านี้ เนื่องจากผิวของแต่ละคนได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่แตกต่างกันในแต่ละวัน ปัจจัยที่ทำให้เรามีร่องแก้มหรือริ้วรอยในวัยหนุ่มสาวนั้นมาจากปัจจัยทางร่างกายของแต่ละคน ปัจจัยภายนอกที่ต้องเจอในแต่ละวัน การเลือกใช้ชีวิตหรือการทากันแดด 2 ข้อนิ้วที่ผ่าน ๆ มาบางอย่างเราอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เมื่อมันสะสมมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็อาจส่งผลให้สุขภาพผิวของเราแย่ลงได้

ปัจจัยภายในร่างกาย

อะไรทำให้บางคนดูเด็กแต่มี ร่องแก้ม เหมือนคนแก่ ในแง่ของปัจจัยภายในร่างกาย อย่างแรกคือ ความหนาแน่นของคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวหนังของเรา ในช่วงวัยเด็กหรือวัยรุ่นร่างกายจะผลิตคอลลาเจนในอัตราปกติ แต่เมื่อเราเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ อายุประมาณ 25 ปี ร่างกายของเราก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลง อัตราการสร้างคอลลาเจนช้าลง ผิวเริ่มสูญเสียความกระชับและริ้วรอยต่าง ๆ เช่น ตีนกา รอยย่นหน้าผาก ร่องแก้ม เริ่มปรากฏขึ้น

อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย คือ ผิวขาดการยึดเกาะ ซึ่งจะทำให้กระดูกใต้ตายุบตัวเกิดเป็นร่องแก้มได้ ซึ่งมักเกิดในผู้ที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 30 ปี (ขึ้นอยู่กับอายุที่ อาจจะเป็นคนหนุ่มสาวที่มีร่องลึกบนใบหน้า ทำให้ดูแก่กว่าอายุจริงมาก)

ปัจจัยภายนอกร่างกาย

ปัจจัยภายนอก เช่น สภาพแวดล้อมที่เราเผชิญเมื่อเราออกไปข้างนอก อาจส่งผลต่อพัฒนาการของโพรงจมูกในวัยหนุ่มสาว ปัจจัยนี้อยู่นอกเหนือการควบคุมของเราเป็นส่วนใหญ่ สามารถหลีกเลี่ยงหรือป้องกันได้ในบางครั้งเท่านั้น เช่น รังสียูวีในแสงแดด ควันบุหรี่ ควันไอเสีย เชื้อโรคที่อยู่ในอากาศ ฝุ่นละออง หรือ PM 2.5 เป็นต้น เพื่อป้องกันตัวเองจากความหย่อนคล้อยที่เกิดจากปัจจัยเหล่านี้ แนะนำให้ทาครีมกันแดดทั้งผิวหน้าและผิวกาย สวมเสื้อโค้ท กางเกงขายาว พกร่ม และสวมหน้ากากอนามัย

ปัจจัยเรื่องพฤติกรรม

อีกประการหนึ่งที่ทำให้ผิวขาดความกระชับและเกิดความหย่อนคล้อย คือ การแสดงอารมณ์ทางสีหน้ามากเกินไปเป็นประจำ ลองสังเกตว่าส่วนไหนที่คุณเคลื่อนไหวบ่อยหรือยืดมาก จะมีความหย่อนคล้อย เช่น นอกจากคิ้ว หน้าผาก เท้า ตา ข้อศอก ฯลฯ แล้ว ความเครียด นอนไม่พอ ดื่มน้ำไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ หรือกินขนมมากเกินไปก็ทำให้คนอายุน้อยแต่มีร่องแก้มได้เช่นกัน ทำให้เกิดริ้วรอยบนแก้มของเรา

ลดเลือนร่องแก้ม

บอกลารอยย่นหน้าผาก กู้หน้าเด็กกลับคืนมา วิธีลดเลือนร่องแก้ม

วิธีลดเลือด ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก และริ้วรอยความเหี่ยวย่นต่าง ๆ ของคนที่อายุน้อยแต่มีร่องแก้ม สามารถทำได้ทั้งการยกกระชับผิวให้ตึงกระชับ และการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปเพื่อให้รอยร่องแก้มดูจางลง การรักษาทั้งสองประเภทมีข้อดีและข้อเสีย แบบไหนเหมาะสมกว่ากันขึ้นอยู่กับแต่ละ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินการรักษาที่เหมาะสมหรือขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ก่อนก็ได้ มาดูวิธีลดเลือนร่องแก้ได้ด้วยวิธีไหนบ้าง

Ultraformer III

หลายคนคงคุ้นเคยกับ HIFU ซึ่งเป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าที่ได้รับความนิยมอย่างสูง Ultraformer III ใช้พลังงานอัลตราซาวนด์เหมือนกัน แต่มีความเข้มของพลังงานสูงกว่า ทำให้คล้ายกับ HIFU นั่นก็คือ MMFU หรือ Micro & Macro Focused Ultrasound จึงให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า HIFU ถึง 5 เท่า นอกจากจะกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวหนังและยกกระชับร่องแก้มให้เรียบเนียนตึงขึ้นแล้ว สามารถลงลึกถึงชั้นกล้ามเนื้อใบหน้าส่วนบน (SMAS)

Morpheus8

เป็นการปฏิวัตินวัตกรรมใหม่เพื่อการแก้ไขริ้วรอย ร่องลึก และขจัดความหย่อนคล้อยของผิว ใช้พลังงานคลื่นความถี่วิทยุผ่านเข็มทองขนาดเล็กมากจำนวน 24 เข็ม เพื่อกำหนดเป้าหมายไปยังชั้นผิวที่ต้องการแก้ไขอย่างแม่นยำ (Multi-Layer Technology) จากนั้นใต้ชั้นผิวหนังจะถูกกระตุ้นให้เกิดการจัดเรียงตัวของคอลลาเจนใหม่ เพิ่มอัตราการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน สลายไขมันส่วนเกิน และฟื้นฟูสภาพผิวให้เรียบเนียนตึงกระชับ เหมาะกับคนหนุ่มสาวที่มีร่องแก้ม ผู้สูงอายุ ใบหน้าหย่อนคล้อย คอเหี่ยวย่น รูขุมขนกว้าง เหนียง และริ้วรอยรอบดวงตาเยอะโดยไม่ทำให้แสบหรือแสบผิว ฯลฯ

ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์ (Filler) ซึ่งสารไฮยาลูรอนิคแอซิดที่สร้างเลียนแบบสารในร่างกายนี้จะช่วยเติมเต็มร่องแก้มให้ตื้นขึ้น วิธีนี้เป็นที่นิยมมากเพราะไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องฉีดยาชา ไม่บวม ไม่ช้ำ เห็นผลทันที อย่างไรก็ตามราคาค่อนข้างสูง เพื่อให้ฟิลเลอร์ดูดซับน้ำและอิ่มขึ้น คุณต้องดื่มน้ำมาก ๆ นอกจากนี้ ต้องระวังอย่าให้ใบหน้าถูกกระทบกระเทือน เพราะฟิลเลอร์ที่แพทย์เติมเข้าไปอาจผิดรูปได้ นอกจากนี้ ฟิลเลอร์มักอยู่ได้ประมาณ 1-2 ปี (ขึ้นอยู่กับประเภท) หลังจากนั้นจะค่อย ๆ สลายไป หากเป็นฟิลเลอร์ของแท้

เติมไขมันร่องแก้ม

การเติมไขมัน (Fat Grafting) เป็นอีกวิธีหนึ่งในการลดปัญหาโพรงจมูกในวัยเยาว์ที่ได้รับความนิยมพอ ๆ กับวิธีอื่น ๆ ใช้เซลล์ไขมันของคนไข้เฉพาะรายและสามารถเติมเฉพาะจุดหรือทั้งหน้าก็ได้ หลังจากเติมไขมันบนใบหน้าแล้ว ริ้วรอยต่าง ๆ ที่เกิดหรือร่องลึกที่เกิดจากการหย่อนคล้อยก็จะค่อย ๆ จางหายไป ทำให้ใบหน้าดูเด็กลง นอกจากนี้ยังช่วยให้ผิวแห้งชุ่มชื่นและส่งเสริมสุขภาพที่ดี 

การแก้ปัญหาร่องแก้มของสาว ๆ วิธีนี้ จะเจ็บกว่าวิธีอื่น ๆ เล็กน้อย เนื่องจากต้องดูดไขมันออกจากใต้ผิวหนัง ดังนั้นจึงอาจจำเป็นต้องดูดไขมันร่วมด้วย เมื่อเติมไขมันร่องแก้ม ใบหน้า น้องสาว หรือหลังมือ แพทย์จะดูดไขมันแบบ Manual Liposuction (ใช้แรงมือ) ไม่ได้เปิดเครื่องดูดไขมันพลังน้ำ Body-jet เหมือนการเติมไขมันจุดใหญ่ ๆ อย่างหน้าอก หรือก้นเด้ง

ป้องกันไม่ให้ร่องแก้มมาเยือน

วิธีป้องกันไม่ให้ร่องแก้มมาเยือน

  1. ทาครีมกันแดด หลีกเลี่ยงแดด ออกนอกบ้านก็อย่าลืมหลบแดดกันด้วย อย่าท้าให้หน้าโดนแดดโดยตรง เพราะรังสี UV จะทำลายคอลลาเจนใต้ชั้นผิว ทำให้เกิดฝ้า กระ ทำให้หน้าดูหมองคล้ำกว่าเดิม ควรทาครีมกันแดดให้ทั่วใบหน้าและลำคอเป็นประจำทุกวัน
  1. ทาครีมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น การทาครีมบำรุงผิวไม่ใช่วิธีที่เห็นผลเร็วที่สุด แต่เป็นวิธีที่เหมาะสำหรับการป้องกันมากกว่า เราต้องบำรุงผิวทุกวันเพื่อให้ผิวชุ่มชื้น เมื่อผิวชุ่มชื้นโอกาสเกิดร่องแก้มหรือริ้วรอยบนใบหน้าก็จะลดลง
  2. ทานอาหารให้เหมาะสม อย่างที่เคยพูดกันว่าจริงอยู่เราควรกินอาหารให้ครบห้าหมู่ทุกวัน ผู้ที่กินผักมากมักขาดโปรตีนจึงมีโอกาสเกิดริ้วรอยได้สูงกว่าคนทั่วไป นอกจากการรับประทานอาหารที่เหมาะสมในปริมาณที่เหมาะสมแล้ว ควรดื่มน้ำประมาณสองลิตรต่อวัน
  3. ปรับเปลี่ยนทานอนใหม่ สำหรับคนที่ชอบนอนตะแคง นอนคว่ำเป็นประจำ จะทำให้ใบหน้าถูกกดทับและเหี่ยวย่นได้ แนะนำให้นอนหงายแทน