เติมไขมันหน้า อยู่ได้นานไหม ใคร ๆ ก็อยากรู้ มาหาคำตอบกัน

เมื่ออายุมากขึ้น ผิวของคนเราย่อมเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา และแรงโน้มถ่วงของโลกเป็นธรรมดา นั่นเป็นเพราะคอลลาเจนและอิลาสตินลดลงเมื่อเวลาผ่านไป จึงทำให้ผิวไม่แข็งแรง ขาดความกระชับ นอกจากนี้เมื่อเราอายุ 20 ปี Baby Fat ก็จะลดลงตามไปด้วย หลายคนสงสัยว่า Baby Fat คืออะไร เบบี้แฟตคือไขมันในชั้นผิวหนังที่ติดเรามาตั้งแต่แรกเกิด ทำให้หน้าเรานุ่ม อวบอิ่ม มีวอลลุ่ม ผิวหน้าเต่งตึง

เมื่อเบบี้แฟตหายไปชั้นไขมันจะบางลงหรือหดตัวลง และจะทำให้บางจุดบนใบหน้ายุบลง เช่น หน้าผากยุบ ขมับตอบ แก้มตอบ เป็นต้น จึงได้คิดค้นหาวิธีที่จะทำให้หน้าดูเต่งตึงขึ้นด้วยการเติมไขมันที่หน้า แต่ก็มีหลายคนสงสัยว่าการ “เติมไขมันหน้า อยู่ได้นานไหม” ขอตอบตรงนี้เลยว่าอยู่ได้นานหลายปี เนื่องจากการทำศัลยกรรมในรูปแบบนี้เท่ากับเป็นการเติมเต็มใบหน้าด้วยไขมันส่วนเกินจากร่างกายของตัวเอง แต่การฉีดไขมันจะมีการยุบตัวไม่เหมือนกับการฉีดฟิลเลอร์

การเติมไขมันที่หน้า หรือที่หลายคนมักเรียก ฟิลเลอร์ไขมัน คือ การเติมเต็มส่วนที่ขาดของใบหน้า โดยใช้ไขมันของตัวเอง เติมเต็มส่วนที่ขาดแทนการฉีดฟิลเลอร์ ไม่มีสารสังเคราะห์หรือสารแปลกปลอม การฉีดไขมันที่ใบหน้าจะช่วยลดความเสี่ยงของอาการแพ้หรือผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ การฉีดไขมันใบหน้าเป็นการเติมไขมันตัวเอง

ในไขมันของเรามีเซลล์สร้างใหม่ และเซลล์ในไขมันนี้ก็สามารถช่วยฟื้นฟูผิวให้ดีขึ้นได้อีกด้วย ผิวจะดูชุ่มชื่นขึ้น และการฉีดไขมันที่ใบหน้ายังช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวที่ถูกทำลาย ทำให้ผิวมีสุขภาพดีและแข็งแรงมากยิ่งขึ้น โดยจะเข้าไปช่วยเร่งการซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ จึงทำให้ผิวดูสุขภาพดีขึ้นอีกด้วย

การเติมไขมันใบหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน โอกาสที่เซลล์ไขมันจะอยู่รอดหลังการปลูกถ่ายมีตั้งแต่ 30 – 80% ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่ด้วยเทคนิคพิเศษที่คงคุณภาพของเซลล์ไขมัน ฉีดไขมันหน้า จากกระบวนการดูดและฉีดที่ทำให้ไขมันมีโอกาสติดสูงถึง 70% และอยู่ได้นานเป็นปี โดยไม่ต้องกลับมาเติมเป็นครั้งที่ 2 เซลล์ไขมันที่ปลูกถ่ายก็ติดแล้ว เซลล์ไขมันจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย และจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามน้ำหนักของผู้เข้ารับบริการเอง กล่าวคือ ถ้าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเซลล์ไขมันก็จะเพิ่มขึ้น ไขมันก็จะฟูขึ้นเช่นกัน

ปัจจัยหลักที่จะทำให้หลังการเติมไขมันใบหน้าจะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับเทคนิคของแพทย์แต่ละท่าน สภาพร่างกายของผู้เข้ารับบริการแต่ละราย เนื่องจากแต่ละคนมีระบบการเผาผลาญไขมันที่แตกต่างกัน ซึ่งจะทำให้เปอร์เซ็นต์ไขมันเกาะตัวสูงขึ้นได้ด้วยการดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันนั่นเอง ไม่สามารถนำไขมันคนอื่นมาฉีดได้ เพราะร่างกายของแต่ละคนมีแอนติบอดีที่ต่อต้านสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามาสู่ร่างกาย

ลูกค้าที่กังวลกับการแก้ไขการฉีดไขมันจากครั้งก่อนที่ฉีดไขมันไม่สำเร็จ ฉีดไขมันหน้าพัง ฉีดไขมันเป็นก้อน ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากแพทย์อาจไม่มีความเชี่ยวชาญเพียงพอ รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ฉีดไขมันไม่ติด เช่น การดูดไขมัน การเก็บไขมัน การปั่นเพื่อแยกเซลล์และเทคนิคของแพทย์ที่ใช้ในการฉีดไขมันยังไม่เพียงพอ

• เซลล์ไขมันคุณภาพต่ำจากการเลือกใช้เครื่องดูดไขมันที่ไม่เหมาะสม กระบวนการปั่นแยกเซลล์ไขมันไม่มีประสิทธิภาพ
• เซลล์ไขมันมีการปนเปื้อน จากกระบวนการเก็บไขมันที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ ห้องผ่าตัดไม่ได้มาตรฐานความสะอาด
• เซลล์ไขมันไม่ติดหรือมีการตาย จากเทคนิคการฉีดไขมันที่ไม่ถูกต้อง เช่น ฉีดไขมันผิดชั้น ทำให้เซลล์ไขมันตายและรวมตัวเป็นก้อน หรือฉีดไขมันมากเกินไปจนเลือดไปเลี้ยงเซลล์ไขมันไม่ได้ และจากการละเลยไม่ดูแลตัวเองหลังฉีดไขมันที่เกิดจากตัวลูกค้าเอง เช่นการล้างหน้าแรง ๆ สูดควันบุหรี่ หรืออยู่ในที่ร้อนจัดและเย็นจัด ส่งผลให้เซลล์ไขมันตายและเติมไขมันไม่ติดได้

• สำหรับผู้ที่มีปัญหาเนื้อหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะบริเวณขมับ ร่องแก้ม ซึ่งอาจเกิดจากการรักษาหุ่น ออกกำลังกายมาก ส่งผลให้เนื้อยุบลง หรืออายุที่มากขึ้น รวมถึงคนที่มีใบหน้าแบบนี้ตั้งแต่เกิด หลายๆ จุดต้องเติมเต็ม แก้ไขได้ด้วยการเติมไขมันที่ใบหน้า
• สำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้าดูอวบอิ่ม เรียบเนียน และอ่อนหวาน เพราะไขมันที่เติมเข้าไปจะช่วยฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวให้สวยสุขภาพดีมากขึ้น
• สำหรับคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้ง ไม่ว่าจะเป็น หน้าผาก แก้มส้ม หรือแม้แต่คาง ก็สามารถช่วยเติมเต็มและปรับโหงวเฮ้งให้เกิดมิติให้เข้ากับจุดอื่น ๆ บนใบหน้าของเราให้ดูสวยงาม มีความสมดุลมากขึ้น

การเติมไขมันใบหน้าเป็นการศัลยกรรมเพื่อเติมเต็มรูปหน้าด้วยไขมันของคนไข้เอง ไม่มีสารสังเคราะห์เข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นจึงไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย หรือการต่อต้านของร่างกาย แต่ที่เป็นห่วงและกังวลคือระวังเรื่องการติดเชื้อ ที่เกิดจากขั้นตอนที่ไม่ได้มาตรฐาน การดูแลแผลหลังฉีด ควรเลือกแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ รวมถึงสถานบริการต้องได้มาตรฐาน เพียงเท่านี้ ก็ลดความเสี่ยงได้แล้ว

หลายคนกังวลและกลัวว่าการเติมไขมันที่หน้าจะเจ็บมาก ถ้าคนไข้ถามคำถามนี้ก่อนตัดสินใจ คุณหมอบอกว่า ทางคลินิกจะทำการฉีดยาสลบให้คนไข้ ผสมยานอนหลับอ่อน ๆ เพื่อช่วยลดความเจ็บปวดให้กับคนไข้และอยากให้คนไข้รู้สึกว่า “ตื่นมาแล้วสวย” ส่วนการดูดไขมันบริเวณส่วนเกินนั้น มีเครื่องดูดไขมันที่มีประสิทธิภาพ

เติมไขมันหน้าผาก สามารถรักษาคุณภาพเซลล์ไว้ได้ ไม่ทำลายเซลล์อื่น ๆ และคนไข้ การเติมไขมันบนใบหน้า แพทย์จะเลือกใช้เข็มขนาดเล็ก และเทคนิคการฉีดเพิ่มเติม เพื่อผลของการเกาะตัวของไขมันที่ดี ไม่เป็นคลื่น และเป็นธรรมชาติที่สุด ไม่เจ็บ ปลอดภัย คนไข้ไม่ต้องกังวลใจ

อาการบวมหลังเติมไขมันที่หน้าจะอยู่ประมาณ 3-7 วัน เพราะเป็นไขมันที่แพทย์ได้ทำการฉีดไขมันที่หน้าเผื่อการยุบ หรือการสลายไขมัน และใบหน้าจะเข้าที่เต็มที่ภายใน 4-5 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของคนไข้หลังฉีด แพทย์จึงเน้นย้ำให้คนไข้ดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดเสมอ ตำแหน่งที่ดูดไขมันจะมีอาการสีเขียวเล็กน้อย และจะหายไปภายใน 3-4 วัน

• สำหรับการเตรียมตัวก่อนเติมไขมันที่หน้านั้นจะเหมือนกับการผ่าตัดทั่วไป
• ก่อนเติมไขมัน ควรงดรับประทานยาและอาหารเสริมที่มีผลกับการแข็งตัวของเลือด
• ก่อนฉีดไขมันที่หน้า 2 สัปดาห์ ควรงดอาหารเสริมประเภทวิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา
• ก่อนเข้ารับบริการเติมไขมัน 2 สัปดาห์ ต้องงดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จะไปช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
• ต้องไม่มีโรคประจำตัวประเภท โรคหัวใจ ความดันสูง และไทรอยด์

หากต้องการให้ผลลัพธ์ของการฉีดไขมันอยู่ถาวร ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด แม้ว่ามันอาจจะดูยากสักหน่อยในการใช้ชีวิต แต่ก็เป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ ซึ่งจะมีข้อปฏิบัติดังนี้

• หลังทำการเติมไขมันที่หน้า 24 ชม. แรก ต้องไม่ทำการนวดหน้า ทาครีม หรือโลชั่น
• หลังทำการเติมไขมันในวันแรกควรนอนพักผ่อนให้เต็มที่ 8 ชั่วโมง โดยให้นอนหมอนสูง 2 – 3 วัน
• ต้องรับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ
• พยายามหลีกเลี่ยงการโดนความร้อนจัด หรือเย็นจัด โดยเฉพาะการทำซาวน่า
• ต้องไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประมาณ 3 – 7 วัน
• งดการออกกำลังกายอย่างหนัก
• หากเกิดอาการผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์
• ไม่จับหน้าหรือนวดหน้าแรง ๆ เป็นเวลา 7 – 10 วัน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ไขมันที่ฉีดไปที่ใบหน้าสลายตัวไป