แพ็คเกจผ่าตัดกระเพาะ ราคา เท่าไหร่? ทางเลือกของการลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน

ผ่าตัดกระเพาะ ราคา

การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะเป็นอีกทางเลือกสำหรับคนอ้วนหรือคนที่มีน้ำหนักตัวเยอะ ไม่ว่าจะลดน้ำหนักด้วยวิธีไหนก็ไม่เห็นผล การผ่าตัดกระเพาะจึงเป็นตัวช่วยที่ดี เป็นทางเลือกในการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะใช้วิธีการตัดชิ้นเนื้อในกระเพาะอาหารออก ตามแนวยาวของกระเพาะออกบางส่วนเพื่อลดขนาดกระเพาะให้เล็กลง จะช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานได้

ซึ่งการผ่าตัดกระเพาะจะทำให้ผู้ที่ผ่าตัดกระเพาะไปแล้วนั้นแล้วสามารถประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่ต้องการผ่าตัดกระเพาะแต่อยากรู้ราคาการผ่าตัดเรามี ผ่าตัดกระเพาะ ราคา มาแนะนำเพื่อช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจในการเลือกคลินิกในผ่าตัดกระเพาะได้ในราคาที่กลาง ๆ ที่ยุติธรรม ซึ่งราคาที่เรานำมาให้ดูเป็นตัวอย่างจะเป็นราคากลาง ๆ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงแห่งใดแห่งหนึ่ง เป็นราคาเฉลี่ยตามท้องตลาดทั่วไป

แนะนำการผ่าตัดกระเพาะ ราคา ที่คลินิกเสริมความความงาม

รวมค่าผ่าตัด ค่าห้อง ค่าบริการ ค่าแพทย์ ค่ายา นอนโรงพยาบาล 4 คืน 5 วัน โดยประมาณ ส่วนใหญ่จะไม่รวม ไม่รวม Sleep test 8000 และบางที่อาจมีค่าอาหารทางการแพทย์ เพิ่มเข้ามา (ค่ารักษาอาจ เพิ่ม-ลด ตามระยะเวลาการนอนพักพื้นของคนไข้)

และผ่าตัดกระเพาะ ประกันสังคมนี้เป็นราคากลางการผ่าตัดกระเพาะด้วยการส่องกล้อง แต่ก็มีการผ่าตัดกระเพาะอีกหลายราคาที่คุณสามารถเข้าไปติดต่อถามราคา จากคลินิกที่ต้องการรักษาได้ ก่อนที่จะตัดสินใจรับการผ่าตัดกระเพาะ

ผ่าตัดกระเพาะ ราคา เท่าไหร่

การผ่าตัดกระเพาะสามารถลดน้ำหนักสำหรับคนอ้วนได้หรือไม่

สำหรับการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักสำหรับคนอ้วนสามารถทำได้จริง เพราะการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะจะทำให้กระเพาะเล็กลง ส่งผลให้ทานอาหารได้น้อยลง ทำให้สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ ในขณะเดียวกันผู้ที่เข้ารับการผ่าตัดก็ควรที่จะออกกำลังกาย ควบคู่ไปกับการทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อสุขภาพที่ดีอีกด้วย ส่วนผลลัพธ์หลังการผ่าตัดขึ้นอยู่กับผู้รับการผ่าตัด ซึ่งอาจได้ผลลัพธ์ไม่เท่ากันในแต่ละคนและขึ้นอยู่กับเทคนิคการที่ใช้ด้วย

ใครเหมาะสมกับการผ่าตัดกระเพาะ

  • มีค่าดัชนีมวลกายระหว่าง 30 ถึง 40 แต่มีภาวะที่เกี่ยวข้องกับโรคอ้วน เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 หรือความดันโลหิตสูง
  • อายุไม่เกิน 65 ปี
  • มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงพอที่จะดมยาสลบได้
  • คือคนอ้วนที่เคยลดน้ำหนักด้วยวิธีต่าง ๆ แล้วไม่ได้ผล เช่น การอดอาหาร การออกกำลังกาย หรือการใช้ยา
  • มีวินัยในการดูแลสุขภาพ ควบคุมอาหาร ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และนักโภชนาการและพบแพทย์ตามนัดหมายทุกครั้ง
  • พูดคุยกับแพทย์ของคุณ หากคุณคิดว่าการผ่าตัดลดน้ำหนักอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณ หากคุณมีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการรักษา เราสามารถส่งต่อคุณเพื่อรับการประเมินเพื่อตรวจสอบการผ่าตัดของคุณได้

การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะทำอย่างไร ?

การผ่าตัดลดน้ำหนักเป็นการผ่าตัดที่ทำให้กระเพาะอาหารหดตัวและลดปริมาณอาหารที่เข้าสู่ร่างกาย ทำได้โดยการลดขนาดกระเพาะและปรับฮอร์โมนในร่างกาย การผ่าตัดลดน้ำหนักที่นิยมในปัจจุบันมี 2 วิธีคือ

1. การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ (Restrictive procedure)

เป็นการผ่าตัดเพื่อลดขนาดกระเพาะให้เล็กลง เหลือไว้แต่กระเพาะส่วนที่จำเป็นให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย วิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการทำ และมีประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี คือการส่องกล้องเอากระเพาะอาหารบางส่วนออกโดยแพทย์จะสอดกล้องเข้าไปแล้วตัดออก ซึ่งส่วนที่ถูกตัดออกจะเป็นกระเพาะส่วนที่สร้างฮอร์โมนที่ทำให้รู้สึกหิว มีผลในการควบคุมความรู้สึกหิวและลดความอยากอาหารของผู้ป่วยหลังการผ่าตัดได้

2. ลดการดูดซึมในกระเพาะอาหาร (Mal-absorptive procedure)

เช่นการทำบายพาสกระเพาะ หรือ Roux-en-Y gastric bypass คือการลดการดูดซึมอาหารด้วยการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ การเบี่ยงเบนทางเดินอาหาร เพื่อเลี่ยงการดูดซึมอาหารบางส่วน เช่น กระเพาะส่วนใหญ่และลำไส้เล็กบางส่วนที่มีการดูดซึมสูง ซึ่งอาจจะทำการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะลงร่วมกับการบายพาสทางเดินอาหาร วิธีนี้จะลดการดูดซึมอาหาร ลดความอยากอาหารได้ดีอีกด้วย

ผ่าตัดกระเพาะ ราคา เตรียมตัวอย่างไร

การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะควรเตรียมตัวอย่างไร ?

  • ก่อนเข้ารับการผ่าตัด ผู้ป่วยต้องได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เช่น การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด อัลตราซาวนด์ การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ การตรวจสมรรถภาพปอด เป็นต้น
  • การส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติของกระเพาะอาหารก่อนการผ่าตัด
  • การเตรียมโภชนาการจากนักกำหนดอาหาร จะมีการประเมินการรับประทานอาหารหลังการผ่าตัด
  • การทดสอบทางจิตวิทยากับนักจิตวิทยาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีอาการป่วยทางจิตเวชทสำคัญที่ห้ามผ่าตัด และเตรียมปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหลังทำการผ่าตัด
  • ประเมินโรคเสี่ยงก่อนการผ่าตัด เพื่อป้องกันผลเสีย เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นต้น
  • การตรวจการนอนหลับ Sleep Test
  • ออกกำลังกายอย่างไรให้ถูกวิธีทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดกับแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู
  • งดสูบบุหรี่ 4 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
  • งดน้ำและอาหาร 6-8 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัด
  • หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ แจ้งให้แพทย์และพยาบาลทราบ
  • หากคุณกำลังรับประทานยา อาหารเสริม สมุนไพร ควรปรึกษาแพทย์ว่ารับประทานชนิดใดได้และชนิดใดควรหยุดก่อนเข้ารับการผ่าตัด
  • โปรดแจ้งให้แพทย์ทราบหากคุณกำลังใช้ยาที่ส่งผลต่อการแข็งตัวของเลือด หรือประวัติการเจ็บป่วยเกี่ยวกับโรคหลอดเลือด
  • ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการฉีดยาต้านลิ่มเลือด 12 ชั่วโมงก่อนการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะ

หลังทำการผ่าตัดกระเพาะควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

  • หลังการผ่าตัดผู้ป่วยจะต้องได้รับสารอาหารและน้ำทางเส้นเลือดจนกว่าจะรับประทานอาหารได้เอง
  • หากมีอาการแทรกซ้อนให้รีบพบแพทย์ทันที เช่น อัตราการเต้นของหัวใจ 120 ครั้งต่อนาที มีไข้ 37.8 องศาเซลเซียส หรือปวดท้องรุนแรง
  • ควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดตามแผนและปรึกษานักกำหนดอาหารอย่าเคร่งครัด
  • การรับประทานอาหารหลังการผ่าตัดแบ่งออกเป็น สัปดาห์แรกหลังการผ่าตัด สามารถรับประทานอาหารเหลวได้ครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่อัดลมและไม่เติมน้ำตาล ซุปใส น้ำผัก น้ำผลไม้ โยเกิร์ต เป็นต้น
  • สัปดาห์ที่ 3 หลังผ่าตัด ให้รับประทานอาหารมื้อเล็ก ๆ โดยดื่มน้ำก่อนรับประทานอาหาร 15-30 นาที เช่น ข้าวต้ม เป็นต้น เพื่อปรับเป็นอาหารปกติ โดยรับประทานในปริมาณน้อย ๆ เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
  • สามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 หลังการผ่าตัด และงดยกของหนักเป็นเวลา 3 เดือน
  • พบแพทย์ตามนัดตรวจร่างกายอย่างเคร่งครัด

กฎเหล็ก 4 ข้อที่คนไข้ต้องปฏิบัติตามหลังการผ่าตัด

“ก่อนการผ่าตัดหมอได้คุยกับคนไข้ เพื่อเช็คว่าจะสามารถดูแลสุขภาพหลังการผ่าตัดอย่างเคร่งครัดได้หรือไม่ โดยยึดกฎเหล็ก 4 ข้อ ดังนี้

  • เมื่อไม่หิวก็ไม่ต้องกิน
  • อย่าดื่มเครื่องดื่มชูกำลัง
  • ออกกำลังกายวันละ 30 นาทีทุกวัน
  • และสุดท้าย ไม่ควรดื่มน้ำพร้อมกับมื้ออาหาร โดยปล่อยให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานที่สุด อย่างน้อย 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงก่อนดื่มน้ำ ให้รู้สึกอิ่มนาน หากคนไข้ทำตามกฎ 4 ข้อ การผ่าตัดจะประสบความสำเร็จสูงสุด

ผ่าตัดกระเพาะ ราคา อันตรายหรือไม่

การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะเป็นอันตรายหรือไม่ ?

ปัจจุบันนวัตกรรมการศัลยกรรมมีความทันสมัยมากขึ้น การผ่าตัดกระเพาะเพื่อลดน้ำหนักเราสามารถใช้วิธีส่องกล้อง โดยเจาะรูเล็ก ๆ ขนาดแผลประมาณ 1-1.5 ซม. แล้วเย็บด้วยไหมละลายหลังการผ่าตัด ดังนั้นผู้ป่วยผ่าตัดกระเพาะ ข้อเสียนั้นอาจจะมีบ้างเล็กน้อยแต่คนไข้จะสามารถฟื้นตัวได้เร็ว เจ็บน้อย และหลังจากนั้นเพียง 1-2 วันก็สามารถเดินได้ตามปกติ

และด้วยความคมชัดของเทคโนโลยี 4K-Full HD ในปัจจุบัน ศัลยแพทย์จึงสามารถทำงานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้การผ่าตัดมีความปลอดภัยและมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนน้อย

การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่ต้องอาศัยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เช่น ทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางลดน้ำหนัก นักโภชนาการ และอายุรแพทย์ต่อมไร้ท่อ ซึ่งจะดูแลทั้งก่อนและหลังการผ่าตัดเพื่อให้การรักษาประสบผลสำเร็จรวมถึงลดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นและหลังรับการรักษาจะต้องมีการติดตามอย่างต่อเนื่องกับทีมแพทย์ผู้รักษา

ความแตกต่างระหว่างการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะแต่ละวิธี

การผ่าตัดลดขนาดกระเพาะส่วนบนเป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อลดระยะทางที่อาหารเดินทางจากกระเพาะอาหารไปยังลำไส้ การผ่าตัดลดปริมาณอาหารที่รับประทานและลดการดูดซึมอาหาร วิธีนี้สามารถใช้ได้โดยการส่องกล้อง การลดปริมาณอาหารที่รับประทานและการดูดซึมอาหารหมายความว่ามีอาหารน้อยลงในกระเพาะอาหาร ลดโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนโดยเฉพาะเบาหวานชนิดที่ 2 วิธีนี้เป็นอีกแนวทางใหม่ที่น่าสนใจในการรักษาเบาหวานชนิดดังกล่าว

การผ่าตัดกระเพาะให้มีรูปร่างคล้ายกล้วยหอม วิธีนี้เกี่ยวข้องกับการกำจัดส่วนล่างของกระเพาะอาหารซึ่งผลิตฮอร์โมนที่ทำให้คุณรู้สึกหิวออก ผู้ป่วยจึงรู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ช่วยลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วและรักษาน้ำหนักให้คงที่ การผ่าตัดผ่านกล้องเป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปและมีประสิทธิภาพสำหรับการผ่าตัดฉุกเฉิน ระยะเวลาพักฟื้นคือ 3 วัน และผู้ป่วยสามารถกลับไปทำกิจกรรมตามปกติได้

หลังการผ่าตัดหากปฏิบัติตามกฎ 4 ข้ออย่างเคร่งครัด คนไข้จะสามารถลดน้ำหนักได้เกือบครึ่งหนึ่งใน 1-2 ปี นี่คือการลดน้ำหนักที่เปลี่ยนชีวิต เช่นคนไข้รายหนึ่งก่อนผ่าตัดหนัก 147 กิโลกรัม หลัง 6 เดือนลดเหลือ 98 กิโลกรัม และ 8 เดือนลดเหลือ 89 กิโลกรัม เป็นต้น

ประโยชน์ที่คุณจะได้รับเมื่อทำการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะมีอะไรบ้าง ?

  • กินน้อย ประหยัดค่าใช้จ่าย
  • มั่นใจในรูปร่างของตัวเอง
  • ลดโรคที่เกิดจากโรคอ้วน
  • ใส่เสื้อผ้าง่ายขึ้น มีความมั่นใจ