ไขมันใต้รักแร้ คือเนื้อเยื่อของเต้านมที่ขยายไปสู่รักแร้ เปรียบเสมือนเต้านมอีกคู่หนึ่งที่เติบโตภายใต้รักแร้ บางคนมีการพัฒนากลายเป็นหัวนม ลานนม อาจเจ็บปวดเพราะอยู่ในบริเวณที่มีการเสียดสีบ่อย ๆ อาจไม่สามารถหุบรักแร้ได้จนรู้สึกไม่สบายตัว อีกทั้งผิวหนังบริเวณนั้นไม่เคยยืดหยุ่นมาก่อน ทำให้อาจเจ็บปวดบริเวณใต้รักแร้ได้
สำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องไขมันใต้รักแร้นั้น มีวิธีที่ได้รับความนิยมและสามารถกำจัดก้อนไขมันใต้วงแขนได้อย่างเห็นผลลัพธ์ที่ดีมากที่สุด นั่นก็คือการดูดไขมันใต้รักแร้นั่นเอง โดยการใช้เครื่องดูดไขมันสลายไขมันใต้วงแขน จะช่วยให้บริเวณใต้วงแขนของเราดูเรียบเนียน เรียวกระชับ โดยไม่มีไขมันหรือเนื้อล้นใต้รักแร้อีกต่อไป
ซึ่งสามารถเข้าใช้บริการดูดไขมันตามคลินิกเสริมความงามหรือผู้ให้บริการต่าง ๆ ที่มีอยู่มากมายในปัจจุบัน ซึ่งควรศึกษาหาข้อมูลให้ดีก่อนเข้ารับบริการ เพื่อให้การเข้ารับบริการของคุณนั้นเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากที่สุดนั้นเอง
สาเหตุของการเกิดไขมันส่วนเกินใต้รักแร้
ไขมันส่วนเกินใต้รักแร้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ รักษาได้ด้วยการดูดไขมันใต้วงแขนหรือการผ่าตัด สาเหตุของไขมันส่วนเกินใต้รักแร้มีดังนี้
- เนื้อเยื่อผิดปกติ
โดยปกติเต้านมของมนุษย์ประกอบด้วยหัวนม ต่อมน้ำนม ลานนม และท่อน้ำนม ซึ่งปกคลุมด้วยชั้นของผิวหนัง ไขมัน เมื่อร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ เนื้อเยื่ออาจผิดปกติ ทำให้ดูเหมือนล้น เมื่อมองจากภายนอก มีลักษณะเป็นเนินหรือใหญ่กว่า คล้ายกับเต้านม อาจเห็นเป็นจุดเหมือนหัวนมด้วย หากเป็นสาเหตุนี้ คุณควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อการผ่าตัดที่เหมาะสม เนื่องจากอาการของเนื้อเยื่อผิดปกติที่ไม่สามารถรักษาได้ด้วยการฉีดละลายน้ำนมที่มีไขมันน้อย
- เซลล์เต้านมผิดปกติจากฮอร์โมน
อาการนี้พบได้บ่อยในผู้หญิง มักเกิดขึ้นในผู้ที่อยู่ในช่วงฮอร์โมนเช่น ระหว่างมีประจำเดือน พวกเขากำลังตั้งครรภ์ เพิ่งคลอดบุตร หรือกำลังรับประทานฮอร์โมนหรือยาเสริมเต้านม เมื่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอาจทำให้เซลล์เต้านมลุกลามไปยังบริเวณอื่นตามแนวเต้านม (Milk line) เช่น ใต้รักแร้ กลางอก และไหล่
- ไขมันส่วนเกิน
หลายครั้งที่เกิดความผิดปกติไม่ได้เกิดจากร่างกายเพียงอย่างเดียว แต่อาจเกิดจากพฤติกรรมที่ทำอยู่เป็นประจำ เช่น การกินเกินปริมาณ ทำให้ไขมันสะสมตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายและใต้รักแร้ จนทำให้เกิดไขมันใต้รักแร้ หรือใส่เสื้อยกทรงที่คับเกินไป
วิธีแก้ไขไขมันส่วนเกินใต้รักแร้
แม้ว่าไขมันใต้วงแขนจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ส่งผลต่อความมั่นใจของคุณและทำให้การใช้ชีวิตประจำวันยากขึ้นได้ เราต้องหาวิธีแก้ปัญหาเพื่อกำจัดไขมันเหล่านี้ใต้รักแร้ของเรา ซึ่งมีทั้งวิธีเบื้องต้นอย่างการดูแลสุขภาพ การฉีดสลายไขมันใต้รักแร้ จนไปถึงวิธีการผ่าตัด จะมีวิธีไหนบ้างต้องไปดูกัน
- ดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ
คุณควรเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และดูแลร่างกายให้แข็งแรง โดยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่พอดีกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน จะช่วยบรรเทาอาการเพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะนี้เกิดขึ้นอีกในระยะยาว ออกกำลังกายเป็นครั้งคราวเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น
- ผ่าตัด
สำหรับผู้ที่มีเต้านมส่วนเกินผิดปกติ เช่น หัวนม มีของเหลว หรือเลือด เป็นต้น ควรรักษาด้วยการผ่าตัดเพื่อแก้ไขบริเวณที่ผิดปกตินั้น จะช่วยแก้ไขตรงจุด เห็นผลเร็ว ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม แต่สำหรับการผ่าตัดใหญ่ การพิจารณาความเสี่ยงและผลประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญ ต้องแน่ใจว่าจำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องเตรียมตัวเพื่อให้แน่ใจว่าเราสามารถดูแลบาดแผลได้ดีในช่วง 6 เดือนของการฟื้นตัว เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน
- ฉีดสลายไขมันใต้รักแร้
อีกหนึ่งวิธีที่ดีในการแก้ปัญหาไขมันส่วนเกินใต้วงแขน คือการฉีดสลายไขมันใต้วงแขน เพราะเป็นวิธีที่เห็นผลชัดเจนทันทีไม่ต้องเจ็บตัวและไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนาน การฉีดลดไขมันใต้วงแขนสามารถช่วยลดขนาดหน้าอกส่วนเกินจากขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ยังช่วยกระชับผิวหย่อนคล้อย
ขั้นตอนการดูดไขมันใต้รักแร้
- ปรึกษาดูดไขมันใต้รักแร้
ขั้นตอนการดูดไขมันใต้รักแร้คือการปรึกษาแพทย์ที่คลินิกเพื่อให้แพทย์ประเมินปัญหาและวางแผนการดูดไขมันอย่างตรงจุดมากที่สุด ซึ่งในขั้นตอนการปรึกษานี้แพทย์จะสามารถอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการดูดไขมันใต้รักแร้อย่างละเอียด เพื่อให้คนไข้ได้เข้าใจอย่างเต็มที่
- วางแผนดูดไขมันใต้รักแร้
ก่อนเข้าห้องผ่าตัดดูดไขมัน แพทย์จะวางแผนดูดไขมันกับคนไข้ก่อน แผนการรักษานี้โอเคหรือไม่ ถ้าคนไข้โอเค ในวันที่ดูดไขมัน แพทย์จะวาดจุดดูดไขมันใต้รักแร้ แจ้งให้ผู้ป่วยทราบว่าจะเปิดแผลที่ใด แพทย์จะออกแบบรูปทรงและสัดส่วนของผู้ป่วยเฉพาะบุคคล
- เข้าห้องผ่าตัดดูดไขมัน
เมื่อเจ้าหน้าที่เตรียมห้องผ่าตัดและผู้ป่วยพร้อมแล้ว แพทย์จึงนำผู้ป่วยเข้าห้องผ่าตัด จากนั้นแพทย์จึงเริ่มสครับผิวเพื่อฆ่าเชื้อโรคก่อน หากเป็นการดูดไขมันแบบวางยาสลบ จะมีวิสัญญีแพทย์วางยาสลบก่อนเริ่มการผ่าตัด แพทย์จะใส่สารน้ำ Tumescent เข้าไปในชั้นไขมัน
- ใส่ Tumescent ก่อนดูดไขมัน
สารน้ำ Tumescent ถือเป็นสิ่งจำเป็นในการดูดไขมันในปัจจุบัน จะช่วยให้ผู้ป่วยเสียเลือดน้อยลง ลดอาการบาดเจ็บ ช้ำน้อยลง ทำให้แพทย์สะดวกยิ่งขึ้นสำหรับแพทย์ในการดูดไขมันจากน้ำนม Tumescent ประกอบด้วยสารอะดรีนาลีน (ซึ่งทำให้หลอดเลือดหดตัว) ยาชา (ซึ่งทำให้เกิดความเจ็บปวดน้อยลง) และน้ำเกลือ (ซึ่งขยายชั้นไขมัน) เป็นหลัก ซึ่งในอดีตทำให้เกิดการดูดไขมันที่ร้ายแรงมาก เนื่องจากเมื่อก่อน Tumescent ไม่ได้ใช้
- เริ่มการดูดไขมันใต้รักแร้
แพทย์จะใช้เครื่องมือสลายไขมันมสำหรับการดูดไขมัน จะดูรายละเอียดและความเหมาะสมของแต่ละเคส ถ้าคนไข้จะเอาไขมันใต้รักแร้อย่างเดียว เคสแบบนี้ไม่ต้องเปิดเครื่องดูดไขมันด้วยซ้ำ สามารถดูดไขมันด้วยไซริงค์ (Manual Liposuction)เพียงอย่างเดียว
- ดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม
จะดูดไขมันใต้รักแร้หรือดูดไขมันในสัดส่วนใด ๆ แพทย์จะเน้นการดูดไขมันในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้ได้รูปร่างที่เปลี่ยนแปลงไป ให้สัดส่วนกับตำแหน่งอื่น ๆ มีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ได้รูปร่างโดยรวมที่สวยงามที่สุดและเน้นความปลอดภัยมากที่สุด หมอไม่ดูดไขมันจนไม่หมด แต่จะพิจารณาความเหมาะสมของแต่ละกรณี
- หลังดูดไขมันใต้รักแร้เสร็จ
หลังจากการดูดไขมันใต้รักแร้เสร็จสิ้น แพทย์จะรีดน้ำ Tumescent ที่สอดเข้าไปก่อนที่ไขมันจะถูกขับออกจากผิวหนังเพื่อให้บริเวณนี้บวมน้อยลง วิธีนี้จะช่วยเร่งกระบวนการ แผลจะแห้งเร็วขึ้นเมื่อน้ำหมด ศัลยแพทย์จะเย็บแผล 1 เข็ม เพื่อให้น้ำที่เหลือจะถูกระบายออก แพทย์จะใช้แผ่นซับน้ำจากอเมริกาใต้บริเวณแผล และสุดท้ายจะสวมชุดกระชับสัดส่วนให้
เตรียมตัวอย่างไรก่อนฉีดสลายไขมันใต้รักแร้
- พักผ่อนให้เพียงพอ
- ดื่มน้ำปริมาณมากในแต่ละวัน อย่างน้อยวันละ 8 – 10 แก้ว
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์
หลังฉีดสลายไขมันใต้รักแร้ ควรดูแลตัวเองอย่างไร
- ดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน ช่วยให้กระบวนการขับของเสียและสลายไขมันทำงานได้ดีขึ้น
- งดการดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลาอย่างน้อยสองสัปดาห์
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่ควรงดหรืออดอาหารแต่อย่างใด
เครื่องมือในการดูดไขมันใต้รักแร้
สำหรับเคสที่มีการดูดไขมันตำแหน่งอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ดูดไขมันต้นแขน ดูดไขมันปีกหลัง ดูดไขมันเอวเอส หรือดูดไขมันหน้าท้อง แพทย์จะเลือกใช้เครื่องดูดไขมันเพื่อช่วย เนื่องจากการดูดไขมันอย่างรวดเร็วในปริมาณมาก จึงไม่สามารถการใช้ไซริงค์เพียงอย่างเดียว คุณจะต้องใช้ความร้อนหรือพลังงานน้ำเพื่อช่วยในการสลายไขมัน มาทำความรู้จักกับเครื่องดูดไขมันกัน
- เครื่องดูดไขมันพลังน้ำ body-jet
ดูดไขมันใต้รักแร้ ด้วยเครื่อง Body-jet Water-powered Liposuction เป็นการดูดไขมันส่วนเกินใต้วงแขนด้วยพลังงานน้ำ การใช้พลังงานน้ำเป็นไปอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล ซึ่งจะทำให้ไขมันถูกแยก ดูดออก ทำให้ร่างกายมีการทำลายเซลล์ไขมันน้อยลง เรายังสามารถนำไขมันที่ได้จากเครื่องบอดี้เจ็ทไปเติมในส่วนอื่น ๆ ได้อีกด้วย
- เครื่องดูดไขมัน Vaser Smooth 2.2
กำจัดไขมันใต้รักแร้ ลดปัญหารักแร้ปลิ้น ด้วยเครื่องดูดไขมันเวเซอร์ รุ่นใหม่ล่าสุด Vaser Smooth 2.2 จากอเมริกา เครื่องเวเซอร์เป็นเครื่องดูดไขมันความร้อน ใช้พลังงานอัลตราซาวด์ในการผลิตความร้อน นอกจากนี้ยังช่วยขจัดเซลลูไลท์ สามารถใช้สลายไขมันแตกตัวและตายได้อีกด้วย
- เครื่องดูดไขมันพลังคลื่นเสียง Ultra Z
กำจัดเนื้อล้นใต้รักแร้ ด้วยการดูดไขมันโดยใช้เครื่องดูดไขมันอัลตราซาวนด์ Ultra Z จากเกาหลี เครื่องนี้คล้ายกับเครื่อง Vaser แต่มีพลังงานในการทำลายเซลล์ไขมันน้อยกว่า ดังนั้นจึงเหมาะสำหรับกรณีที่เซลล์ไขมันไม่หนาแน่นมาก หรือมีพังผืดมาก การดูดไขมันนมต่ำด้วยเครื่อง Ultra Z นี้ไม่สามารถนำไขมันมาเติมได้อีก
ข้อดีของการฉีดสลายไขมันใต้รักแร้
การฉีดสลายไขมันนมเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุดในการแก้ไขไขมันนมต่ำ เพราะเป็นวิธีการที่แทบไม่มีความเสี่ยงไม่ส่งผลต่อร่างกายแต่อย่างใดหลังฉีดอาจมีอาการบวมหรือช้ำ ก็ยังเป็นวิธีที่ไม่เจ็บมาก เนื่องจากยาผสมกับยาชาแล้ว หลังจากฉีดเพียง 1 วัน คุณก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติโดยไม่เมื่อยแขนสารที่ฉีดเข้าไปสลายไขมันจะสลายตัวตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย
การฉีดสลายไขมันใต้วงแขน ดูดไขมันต้นแขน จะช่วยให้ไขมันที่สะสมในร่างกายสลายไปเอง ยังช่วยให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ กระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและต่อมน้ำเหลือง ส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณที่ฉีดมีความกระชับ แข็งแรง ยืดหยุ่นมากขึ้น
ท่าออกกำลังกายง่าย ๆ บอกลาไขมันใต้รักแร้
ท่าที่ 1 : Kneeling Push Up
การออกกำลังกายแบบคุกเข่าแบบวิดพื้นเริ่มต้นด้วยการนอนคว่ำหน้าโดยให้แขนทั้งสองข้างตึงอยู่กับพื้น เมื่อร่างกายลอยอยู่เหนือพื้นดิน จากนั้นให้ตั้งเข่าและขาทั้งสองข้างเชื่อมต่อกัน ถัดไป งอแขนของคุณจนหน้าอก ลำตัวของคุณหลุดจากพื้นเล็กน้อย ยืดแขนของคุณให้ตึงเพื่อกลับสู่ตำแหน่งเริ่มต้น ขอแนะนำให้ทำซ้ำทั้งหมด 20 ครั้งเพื่อช่วยสร้างกล้ามเนื้อบริเวณรักแร้ หน้าอก และไหล่
ท่าที่ 2 : Overhead Triceps Extension
ท่าออกกำลังกาย Overhead Triceps Extension เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรงโดยแยกขากว้างเท่าช่วงไหล่ ถือดัมเบลล์ไว้ในมือทั้งสองข้างยกแขนขึ้นเหนือศีรษะ หายใจเข้า พับศอกลง หายใจออก ยกแขนขึ้นเหนือศีรษะเหมือนท่าแรก ขอแนะนำให้ทำซ้ำทั้งหมด 20 ครั้งเพื่อเพิ่มความกระชับ ลดไขมันใต้วงแขน
ท่าที่ 3 : Upright Row
ท่าออกกำลังกาย Upright Row ยืนตัวตรงโดยกางขาออกเล็กน้อยโดยถือดัมเบลล์ไว้ในมือทั้งสองข้างในทิศทางที่หันหลังกลับ จากนั้นงอแขน ยกดัมเบลล์ขึ้นจนถึงระดับหน้าอก หายใจเข้าช้า ๆ ทำซ้ำ 20 ครั้งเพื่อช่วยลดไขมันใต้วงแขน สลายไขมัน กระชับกล้ามเนื้อปีก หัวไหล่ และต้นแขน
ท่าที่ 4 : Scarecrow Extensions
ท่าออกกำลังกาย Scarecrow Extensions เริ่มต้นด้วยการยืนตัวตรงโดยกางขากว้างเท่าไหล่ โดยถือดัมเบลล์ไว้ในมือทั้งสองข้าง ยกต้นแขนขึ้นในแนวตั้งฉากเพื่อให้แขนหดตัว จากนั้นค่อย ๆ ขยับเฉพาะปลายแขนให้อยู่ในตำแหน่งที่กางออก 180 องศา แล้วค่อย ๆ พับแขนกลับลงมาที่ตำแหน่งเริ่มต้น ทำซ้ำ 20 ครั้งเพื่อช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
ท่าที่ 5 : Chest Press
ท่าออกกำลังกาย Chest Press เริ่มต้นด้วยการนอนราบกับพื้นโดยตั้งขาไว้ ให้มือทั้งสองข้างจับดัมเบลล์ไว้เหนือระดับหน้าอก แล้วค่อย ๆ ลดแขนของคุณเหนือระดับหน้าอก แนะนำให้ทำซ้ำ 15 ครั้ง เพื่อช่วยกระชับหน้าอกและกล้ามเนื้อหน้าท้อง