แพ้แมสสิวขึ้น สิ่งที่ควยกวนใจสาว ๆ รักษาได้หรือไม่

แพ้แมสสิวขึ้น

ใส่ “แมส” หน้ากากอนามัยปกปิดใบหน้าอย่างไรไม่ให้ทำร้ายผิวหน้า เพราะอาจมีปัญหา “สิว” ที่เป็นปัญหาใหญ่ของใครหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเม็ดเล็กหรือเม็ดใหญ่ก็ทำลายความมั่นใจได้เหมือนกัน เหตุผลที่เราสวมหน้ากากเพราะป้องกันการติดเชื้อไวรัส ป้องกันฝุ่นละออง หรือ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของคนไทย ทำให้เราต้องหันไปใช้ “แมส” แทบตลอดเวลา บวกกับอากาศเมืองไทยที่ร้อนอบอ้าว ผิวหน้ามักมีเหงื่อออกง่าย ทำให้หลาย ๆ คนมีปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา นั่นก็คือ แพ้แมสสิวขึ้น นั่นเอง

สิวแพ้แมส หมายถึง สิวที่เกิดบริเวณที่สวมแมสหรือหน้ากากอนามัยเกิดจากความชื้นใต้แมส นอกจากนี้ยังเกิดจากการแพ้สารเคมีในผลิตภัณฑ์ซักผ้าที่ใช้ทำความสะอาดผ้า ทั้งนี้ สิวผดผื่นแพ้ง่ายสามารถป้องกันได้ด้วยการทำความสะอาดผิวหน้าอย่างสม่ำเสมอ วางกระดาษเช็ดหน้าไว้ใต้หน้ากากเพื่อป้องกันการเสียดสี หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางเมื่อสวมหน้ากาก เปลี่ยนหน้ากากเป็นประจำเมื่อใส่นานเกิน 4 ชั่วโมง และเลือกทำความสะอาดหน้ากากผ้าด้วยสบู่อ่อนหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผสมน้ำหอม

สาเหตุแพ้หน้ากากอนามัย

ส่วนประกอบของหน้ากากอนามัยที่เป็นสาเหตุทำให้แพ้ มีอะไรบ้าง

  1. แผ่นผ้า (Nonwoven Fabric) มักทำให้เกิดผื่นขึ้นบริเวณดั้งจมูกและแก้ม ผื่นจะพอดีกับบริเวณใต้หน้ากาก ผื่นจะเป็นสีแดง เห็นชัดบริเวณผิวหนังที่สัมผัสหน้ากาก เช่น ดั้งจมูก แผ่นแก้ม เป็นต้นแต่บางครั้งอาจมีรายงานว่าลมพิษเป็นโรคภูมิแพ้ น่าจะเกิดจากสารที่เรียกว่าฟอร์มาลดีไฮด์เรซิน แต่ขณะนี้อยู่ในกระบวนการผลิตกำลังพยายามลดสารนี้อยู่
  2. สายคล้อง ส่วนใหญ่ผลิตจากยาง มีผื่นจะคล้ายกับการแพ้ผ้า แต่บริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับสายรัดคือบริเวณหู ไม่ใช่จมูก มักเกิดจากภูมิแพ้ Elastic (Rubber Allergy)

หากแพ้หน้ากากอนามัยสามารถสวมหน้ากากอนามัยแบบผ้าก่อนแล้วจึงสวมหน้ากากอนามัย ชั้นนอกจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผิวหนังโดยตรงซึ่งจะช่วยลดการแพ้แมสสิวขึ้นได้

สิวแพ้แมสเกิดจากอะไร

สิวผดหรือ แพ้แมสสิวขึ้น อาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

  1. รูขุมขนอุดตันจากการผลิตน้ำมันใต้ผิวหนังมากเกินไป หรือการสะสมตัวของเซลล์ผิวที่ตายแล้ว เมื่อใส่แมสเป็นเวลานานยิ่งขับน้ำมันจากต่อมใต้ผิวหนังและเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้ดียิ่งขึ้น ทำให้มีแนวโน้มที่จะเกิดสิวได้ง่าย
  2. แบคทีเรียบนใบหน้าเพิ่มจำนวนมากขึ้น ภายในแมสมีความชื้นรวมถึงสิ่งสกปรกต่าง ๆ บนใบหน้า เช่น น้ำลาย เหงื่อ ความมัน คราบเครื่องสำอางที่สะสมอยู่ใต้แมส เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเติบโตอย่างรวดเร็วของแบคทีเรียบนพื้นผิวและมีปริมาณมากกว่าปกติ ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ เป็นสิวอักเสบหรือสิวอุดตันได้
  3. การเสียดสีระหว่างแมสกับผิวหน้ามักทำให้ผิวระคายเคือง หรือคนที่เป็นสิวแพ้ง่าย สิวจากการเสียดสีระหว่างแมสกับผิวหน้ามักพบในผู้ที่สวมแมสหลายชั้นหรือสวมหมวกกันน็อคทับแมสเวลาขี่มอเตอร์ไซค์
  4. น้ำหอมในน้ำยาซักผ้าหรือน้ำยาปรับผ้านุ่ม ที่ใช้ซักผ้าอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคือง อักเสบ หรือแพ้จนถึงขั้นเป็นสิวผดได้
  5. ความอับชื้น การพูด ไอ จาม เหงื่อของเราทั้งหมดนี้คือส่วนที่ทำให้ละอองที่ฟุ้งกระจายอยู่ใต้หน้ากาก (มวล) จนเกิดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อราในปริมาณมาก ในที่สุดสิ่งนี้ทำให้เกิดการติดเชื้อและการ.อักเสบ

นอกจากนี้วิธีกระชับรูขุมขน เร่งด่วน หรือการสวมหน้ากากอนามัยที่ทำจากวัสดุต่างกันมีโอกาสในการเกิดสิวและความรุนแรงของสิวที่ไม่เท่ากันอีกด้วย การสวมแมสทางการแพทย์ เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยลดความรุนแรงของสิว (Surgical mask) สามารถลดโอกาสการเกิดสิวได้ดีกว่าหน้ากากชนิดอื่น เนื่องจาก หน้ากากอนามัยเป็นผลิตภัณฑ์ควบคุมที่ได้รับการรับรองว่ามีคุณสมบัติป้องกันละออง เชื้อโรค ที่สำคัญผลิตจากเส้นใยพลาสติกที่มีคุณสมบัติอ่อนนุ่มคล้ายผ้าทอ ทำให้สวมใส่สบาย มีคุณภาพสูง สะอาด

สิวที่เกิดจากการใส่แมส

สิวที่เกิดจากการใส่แมส มีลักษณะอย่างไรบ้าง ?

หลัก ๆ แล้วสิวที่เกิดจากการแต่งหน้าจะเป็นสิวอุดตันและผด สิวอุดตันแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท

  1. สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวหัวดำ (Blackheads หรือ open comedone) จะมีลักษณะเป็นจุดสีดำบริเวณจมูกและใบหน้า เกิดจากการอุดตันของขน เนื้อเยื่อ และไขมันภายในรูขุมขน เมื่อโผล่ออกมา การสัมผัสกับออกซิเจนในอากาศจะทำปฏิกิริยาเปลี่ยนให้กลายเป็นจุดสีดำ
  2. สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวหัวขาว (Whiteheads หรือ close comedone) ตุ่มสีขาวเล็ก ๆ บนผิวหนังที่เกิดจากแบคทีเรียอุดตันภายในรูขุมขน แต่รูขุมขนที่อุดตันไม่ได้สัมผัสกับอากาศ ดังนั้นจึงไม่ทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ยังมองเห็นเป็นก้อนสีขาวบนผิวหนัง สิวผด สิวชนิดนี้มีลักษณะเป็นตุ่มเล็ก ๆ สีขาวหรือสีชมพู ไม่มีหัว อาจมีอาการคันร่วมด้วย

วิธีรักษาอาการแพ้หน้ากากอนามัย (แมส)

  1. เลือกใช้หน้ากากผ้านาโน หรือวัสดุสังเคราะห์ที่ระบายอากาศได้ดี
  2. เปลี่ยนหน้ากากอนามัยบ่อย ๆ 

หากคุณจามแรงจนหน้ากากเปียกน้ำลาย คุณควรเปลี่ยนหน้ากากทันทีหรือหลังรับประทานอาหาร เพื่อลดการสะสมของจุลินทรีย์ที่เกาะกับสิ่งสกปรกบนหน้ากากอนามัย

  1. ใช้เซรั่มบำรุงผิว

ปัจจุบันเซรั่มมีมากมายหลายยี่ห้อ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนและมีการพัฒนาสูตรเพื่อรองรับผิวของผู้ที่แพ้ง่าย จะช่วยป้องกันและรักษาอาการอักเสบของสิว ลดการแพ้ ลดเลือนริ้วรอยได้อย่างเห็นผล

  1. เปลี่ยนเครื่องสำอาง

สกินแคร์หรือเครื่องสำอางบางตัวที่ใช้เป็นประจำแล้วไม่ลดประสิทธิภาพลง แต่กลับมาสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อสวมหน้ากากแล้วสิวก็โผล่มา อาจมาจากการอุดตันเนื่องจากพื้นผิวไม่มีการระบายอากาศ แนะนำให้เปลี่ยนการใช้เครื่องสำอางที่ไม่หนักผิว เช่น รองพื้นหรือแป้ง ให้บางเบา ไม่หนักผิว

  1. หน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้งและหน้ากาก N95 ที่ไม่สามารถซักเพื่อใช้ซ้ำได้ ไม่ต้องเสียดายเพราะแพ้แมสไปก็ไม่คุ้ม
  2. ล้างมือให้สะอาดก่อนสัมผัสหน้ากาก

ก่อนจับหน้ากากควรล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์เพื่อความสะอาด ป้องกันการสะสมของแบคทีเรียและหลีกเลี่ยงการสัมผัสหน้ากากขณะสวมใส่

  1. หากคุณใช้หน้ากากผ้าฝ้าย แนะนำให้ล้างด้วยน้ำอุ่น 

เพราะจะช่วยถนอมเนื้อผ้าและไม่ควรซักรวมกับเสื้อผ้าของคุณ ผู้ที่แพ้หน้ากากผ้า หน้าลอกอาจเกิดจากสารที่ใช้ล้างหน้ากาก ลองเปลี่ยนวิธีการซักเช่น ซักน้ำเปล่าแล้วตากแดด ซักน้ำสบู่น้ำยาซักผ้าเด็กที่มีส่วนผสมออร์แกนิคปราศจากน้ำหอมเป็นตัวเลือกที่ดีในการถนอมหน้ากากผ้าของคุณ

  1. เก็บหน้ากากอนามัยให้เหมาะสม

ไม่วางบนโต๊ะและไม่ใส่ซองปิดสนิทเพราะจะทำให้อับชื้น ถ้าไม่ใส่ควรใส่กล่องหรือซองที่มีรูระบายอากาศ

  1. เลือกหน้ากากอนามัยมีมาตรฐาน

ใช้หน้ากากอนามัยที่รู้ที่มาที่ไปของการผลิต เพื่อให้สามารถตรวจสอบสถานที่ผลิตได้ ผู้ใช้ จึงมั่นใจได้ถึงความสะอาดและปลอดภัย

  1. ปรึกษาเภสัชกร หรือพบแพทย์

หากมีอาการ แพ้แมสสิวขึ้น อย่างรุนแรงควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเฉพาะทาง เนื่องจากแพทย์ผิวหนังสามารถรักษาอาการแพ้จากแมสได้แม่นยำที่สุด

จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทั้งโควิด-19 และฝุ่นละออง PM 2.5 ทำให้หลายคนต้องสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากอนามัยมากขึ้น ส่วนใหญ่จะต้องใส่ตลอดทั้งวันเลยก็ว่าได้ เนื่องจากความไม่ปลอดภัยจากโรคระบาดและปัญหาฝุ่นละอองที่ยังคงหมุนเวียนทุกปี ด้วยเหตุนี้เอง หลายคนเจอปัญหาใหม่ นั่นคือปัญหาสิวจากแมสซาชูเซตส์ บางคนแค่มีผดผื่น แพ้เล็กน้อย บางคนแพ้จนอักเสบเป็นสิว โดยเฉพาะคนที่มีผิวแพ้ง่ายอยู่แล้ว เรียกได้ว่าเอาเป็นเอาตายกันเลยทีเดียว

ป้องกันสิวจากหน้ากากอนามัย

วิธีการป้องกันสิวจากการใช้หน้ากากอนามัย

  1. ระยะเวลาในการสวมหน้ากากอนามัย หากเป็นไปได้ แนะนำให้มีช่วงพัก หรือถอดหน้ากากออกจากใบหน้าอย่างน้อย 10-15 นาที ทุก 4 ชั่วโมงในบริเวณที่ปลอดภัยจากการติดเชื้อ เช่น หากคุณอยู่ในห้องคนเดียว ขับรถคนเดียว หรืออยู่ห่างจากผู้คนอย่างน้อย 2 เมตร คุณสามารถถอดหน้ากากออกเพื่อให้ใบหน้าได้หายใจ แต่ถ้าอยู่ในที่ชุมชนห้ามถอดหน้ากากโดยเด็ดขาด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19
  2. กรุณางดใช้ผลิตภัณฑ์ที่ก่อให้เกิดการอุดตันหรือเครื่องสำอางที่ไม่สามารถสวมใส่ในบริเวณที่สวมหน้ากากได้ อาจจะแค่คิ้วหรือตาก็พอ เป็นการประหยัดค่าเครื่องสำอางอีกทางหนึ่ง เพราะการแต่งแต้มพวงแก้มและริมฝีปากยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย ปิดต่อไป
  3. การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่อ่อนโยนไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเพื่อชะล้างความมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกบนใบหน้า การใช้ครีมบำรุงผิวที่ไม่ก่อให้เกิดการอุดตันอาทิเช่น oil free , non comedogenic หรือควรกินคอลลาเจนตอนไหนดี เผื่อรักษาให้สิวหมดหายไปจากใบหน้า
  4. เปลี่ยนหน้ากากหรือทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน

นั่นไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ถ้าเป็นสิวแนะนำให้ปรึกษาแพทย์และรักษาให้ถูกวิธี เพราะปล่อยให้อักเสบรุนแรงต้องใช้เวลาในการรักษามากขึ้น ทำให้เกิดรอยแดง รอยดำ รอยสิวตามมา