เสริมคางกี่วันหายบวม เคี้ยวอาหารได้ไหม ปัญหาหลังเสริมคาง

การ เสริมคางกี่วันหายบวม จะขึ้นอยู่กับวิธีการเสริมคางแผลในที่ใช้ และความรุนแรงของการบวมของแต่ละบุคคล อย่างไรก็ตาม หลังจากการเสริมคาง ควรหลีกเลี่ยงการกัดอาหารที่แห้งและแฉะ เพื่อป้องกันการบวมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม เพื่อประสิทธิภาพในการลดการบวม ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังการเสริมคาง ซึ่งอาจจะรวมถึงการใช้น้ำแข็งหรือการใช้ยาแก้ปวด รวมถึงต้องรอให้เวลาหายของแผลจากการเสริมคางด้วย โดยปกติแล้วเสริมคางกี่วันเข้าที่นั่นจะใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน แต่อาจจะยาวขึ้นหรือสั้นลงได้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการบวม และวิธีการดูแลรักษาหลังการเสริมคางของแต่ละบุคคลด้วย

การเสริมคางมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบดังนี้

การเสริมคางด้วยกระดูกตัวเอง หรือ genioplasty เป็นกระบวนการผ่าตัดเพื่อเสริมความยาวหรือความสูงของคาง โดยการทำงานนี้จะใช้กระดูกของผู้ป่วยเองเป็นวัสดุประกอบในการเสริมคาง เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องมีการประเมินความเหมาะสมของผู้ป่วยก่อนด้วยว่าสามารถทำได้หรือไม่ และต้องมีการดูแลรักษาหลังการผ่าตัดอย่างรอบคอบเพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ ดังนั้น การตัดสินใจเลือกทำการเสริมคางด้วยกระดูกตัวเองควรพิจารณาอย่างละเอียดและคิดหาระยะเวลาการฟื้นฟูตัวเองอย่างถี่ถ้วนก่อนด้วยความระมัดระวังและประเมินความเสี่ยงอย่างถ่องแท้ก่อนดำเนินการ

การเสริมคางด้วยซิลิโคนมีขั้นตอนการทำที่ต้องเปิดแผลทั้งภายในช่องปากและภายนอกบริเวณใต้คาง แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นการเสริมทั้งภายในหรือภายนอกก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะไม่ถาวร เนื่องจากผู้ที่ได้รับการเสริมคางด้วยซิลิโคนอาจเกิดปัญหาของเนื้อเยื่อภายในหรือปัญหาซิลิโคนห้อยทำให้คางเบี้ยวหรือเนื้อคางดูกว้างหนาได้ในอนาคต

หลังการเสริมคาง อาจมีอาการบวม บริเวณคางและหน้าคอ รวมถึงระบบทางเดินหายใจที่เปลี่ยนไป เช่น หายใจติดขัด หรือหายใจเข้าลำคอลำบาก นอกจากนี้ ยังอาจมีอาการเจ็บปวด และความไม่สบายที่บริเวณที่เสริมคางได้ด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นไปตามระยะเวลาที่ผ่านมาหลังการเสริมคาง แต่จะลดลงไปเรื่อย ๆ จนหายไปในที่สุด ถ้ามีอาการผิดปกติหรือไม่มีการดีขึ้นเท่าที่ควร ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจและการรักษาเพิ่มเติม นอกจากนี้ หลังการเสริมคาง ควรปฏิบัติตามคำแนะนำและดูแลรักษาแผลด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้เสียหายกับแผลหรือทำให้บวมมากขึ้น

หลังจากการเสริมคางเสร็จเรียบร้อยแล้ว รีวิวเสริมคาง 1 เดือนเป็นอย่างไร แต่จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนได้ในระยะเวลาประมาณ 3 เดือน โดยเริ่มเห็นความเต่งตึงของผิวและการยกกระชับของส่วนต่าง ๆ บริเวณคางและลำคอ และอาการบวมจะเหลือเพียงเล็กน้อย ในระยะ 6 เดือนหลังการเสริมคาง ผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเวลา 3 เดือน โดยที่อาการบวมจะหายไปเกือบ 100% และส่วนต่างที่ยกกระชับและความเต่งตึงของผิวจะเห็นได้ชัดเจนขึ้น เมื่อผ่านไปประมาณ 1 ปี ผลลัพธ์จะมีความเห็นได้ชัดเจนมากขึ้นอีก โดยจะเห็นได้ว่าคางมีลักษณะเป็นรูปทรง V และรูปทรงคางที่สวยงามมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การรอให้ผ่านไปประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปีจะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้เป็นเอกลักษณ์และคุณภาพที่ดีที่สุด

หลังการเสริมคาง จะต้องดูแลรักษาแผลด้วยความระมัดระวังเพื่อป้องกันการติดเชื้อและอาการบวม โดยควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และดูแลรักษาแผลด้วยตนเองดังนี้

• รักษาความสะอาดของแผลด้วยการล้างด้วยน้ำเปล่าและสบู่อ่อนโดยส่วนใหญ่แพทย์จะแนะนำให้ล้างแผลสัก 2 ครั้งต่อวัน
• ในช่วง 24-48 ชั่วโมงหลังการเสริมคาง ควรที่จะถือถุงน้ำแข็งที่วางไว้ในบริเวณเครื่องเสียง 20 นาที แต่ไม่ควรถอนปากถุงน้ำแข็งออกทิ้ง ดังนั้น ควรใช้ปากถุงน้ำแข็งเป็นชุดหลังการเสริมคางเท่านั้น
• เสริมคางเคี้ยวอาหารได้ไหม ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานเมนูอาหารหลังศัลยกรรมจมูกและอื่น ๆ ที่แห้งและแฉะเพื่อป้องกันการบวมอีกครั้ง และต้องรอให้แผลหลังการเสริมคางหายดีก่อนที่จะกลับมารับประทานอาหารปกติ
• หากมีอาการปวดหลังการเสริมคาง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเลือกใช้ยาแก้ปวด
• ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ เพราะสารเหล่านี้สามารถทำให้แผลหลังการเสริมคางบวมและอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ นอกจากนี้ ควรอยู่ในสภาพการผ่อนคลายและหลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวรุนแรง เพื่อให้แผลหลังการเสริมคางหายได้เร็วที่สุด
• หากมีอาการบวมหรือแผลไม่หายเป็นเวลานาน ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในภายหลัง

หลังการเสริมคางเสร็จสิ้นแล้ว ยังมีความจำเป็นต้องตรวจสอบและดูแลอาการหลังเสริมคางอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดปัญหาหลังการเสริมคาง ดังนี้

หากพบว่า เสริมคางกี่วันหายบวม พันทิป ต้องตรวจสอบว่าอาการบวมนานเท่าใด โดยปกติแล้ว อาการบวมจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์แรก และควรหายไปภายใน 7-10 วัน หากพบว่าบวมนานเกินไป หรือไม่มีการบรรเทาลงเลย หรือมีอาการปวดและเจ็บร่วมด้วย ให้รีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอาการและรักษาต่อไป เนื่องจากอาจเกิดจากการอักเสบหรือติดเชื้อ หากไม่ได้รับการรักษาทันที อาจทำให้เนื้อเยื่อเสียหายได้และเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้

เป็นอาการหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นหลังการเสริมคาง ซึ่งอาจเกิดจากการกระทบกระเทือนหรือการเสริมคางผิดตำแหน่ง ทำให้คางไม่สมดุลกันได้ ทำให้คางดูเบี้ยวหรือเอียงไปทางด้านหนึ่ง สามารถแก้ไขได้โดยการนวดและฝึกหน้าท้องเพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อและสมดุลของคาง หากไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีนี้ อาจต้องพบแพทย์เพื่อพิจารณาการรักษาด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การผ่าตัดใหม่หรือการสร้างเส้นรอบคางเพื่อปรับสมดุลของคางให้เท่ากัน

เกิดจากการเสริมคางด้วยซิลิโคนที่ไม่พอดีกับกระดูกคางของคนไข้ ทำให้คางยื่นออกมามากเกินไป และอาจเกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ดังนั้น หากพบว่าคางของคุณใกล้ทะลุหรือทะลุแล้ว จึงแนะนำให้รีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร็วที่สุด

ปัญหาหลังเสริมคาง อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การใส่ซิลิโคนผิดตำแหน่ง หรือซิลิโคนใหญ่เกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการกระทบกระเทือนที่กระดูกคางและเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดก้อน

อาจเกิดจากการใส่ซิลิโคนที่มีขนาดไม่พอดีกับกระดูกคางของคนไข้ หรือเลือกใช้ชนิดของซิลิโคนที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาหลังเสริมคาง เช่น การเกิดรอยต่อที่มองเห็นได้ชัดเจน ทำให้คางดูไม่สวยงามและไม่เป็นธรรมชาติ

อาจเกิดจากการใส่ซิลิโคนผิดตำแหน่ง ซึ่งอาจทำให้คางย้อยลงและไม่มีความสมดุลกับโครงหน้าของคนไข้ อีกสาเหตุหนึ่งคือผิดองศาของมุมคางที่ซิลิโคนถูกฉีดเข้าไป ทำให้คางดูไม่สวยงามและไม่สมมาตรกับโครงหน้าของคนไข้

อาจเกิดจากการใช้ซิลิโคนที่ไม่เข้ากับรูปหน้า หรือซิลิโคนที่ใหญ่เกินไป ทำให้คางปูดยื่นเป็นก้อนและงอเหมือนกับมะม่วง

การเกิดแผลหลังการทำคางจะขึ้นอยู่กับบุคคลแต่ละคน โดยบางคนอาจมีสภาพผิวที่เสียหายได้ง่ายและเกิดแผลเป็นได้ง่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่มีการเกิดแผลเป็น ในกรณีที่ผู้ทำคางพบว่ามีแผลเริ่มเป็นนูน แข็ง อาจกังวลว่าอาจจะเป็นไต อาจจะยังด่วนสรุปไม่ได้ เพราะเป็นช่วงผิวหน้ากำลังเข้าสู่โหมดการสร้างคอลลาเจน ดังนั้น แนะนำให้นวดเบา ๆ เพื่อช่วยคลายความแข็งและความนูนของแผลได้เร็วขึ้น จนกว่าแผลจะหายไปเองอย่างสมบูรณ์

การเสริมคางเป็นกระบวนการที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความไม่สมดุลของใบหน้าได้ บางคนอาจมีคางที่ไม่ชัดเจนเนื่องจากพัฒนาตัวยาก หรือเป็นผลจากการสูญเสียน้ำหนักของใบหน้า ดังนั้นผู้ที่เหมาะกับการเสริมคางได้แก่

• ผู้ที่มีคางเล็กหรือไม่ชัดเจน
• ผู้ที่มีใบหน้าที่ไม่สมดุล
• ผู้ที่มีความต้องการเพิ่มความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง
• ผู้ที่ต้องการดูเป็นมิตรและเป็นกันเองมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจเสริมคางเป็นเรื่องส่วนบุคคลของแต่ละคน ควรพิจารณาด้วยความรอบคอบและพิจารณาถึงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วย