ดูดไขมันหน้า บอกลาไขมันกวนใจ มองมุมไหนก็สวย

ไขมันส่วนเกินบนใบหน้า สิ่งกวนใจที่สาว ๆ หลายคนไม่อยากนึกถึง นอกจากทำให้ใบหน้าอ้วนกลมไม่มีมิติแล้ว จะถ่ายรูปมุมไหนก็เหนียงโผล่ แก้มหย่อนคล้อยเข้ากรอบจนหมดความมั่นใจในการดูดไขมัน นี่เป็นอีกวิธีหนึ่งในการกำจัดไขมันส่วนเกินบนใบหน้า คาง และเหนียงของคุณ ยังช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว ส่วนใหญ่จะเป็นการดูดไขมันบริเวณเหนียง คอ แก้มล่าง กราม แล้วแต่ปัญหาการสะสมของไขมันในแต่ละบุคคล

หลักการดูดไขมันหน้า เป็นเทคโนโลยีที่เป็นที่ยอมรับและได้รับนิยมอย่างมากในสหรัฐอเมริกา ในการดูดไขมันใบหน้าจะใช้คลื่นเสียงความถี่สูงไปสลายเซลล์ไขมัน ซึ่งสามารถเจาะจงเข้าไปสลายไขมันเฉพาะส่วนที่ต้องการดูดออกเท่านั้น ทำให้ไม่ส่งผลต่อเนื้อเยื่อรอบข้าง เช่น เส้นประสาท หลอดเลือด เนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้อง ไขมันเหลวช่วยให้ดูดออกอย่างนุ่มนวล อาการเขียว บวม ช้ำ พบได้น้อยกว่าวิธีการดูดไขมันทั่วไป เวลาพักฟื้นจะน้อยลงอีกด้วย

ในวัยรุ่น

ในคนที่อ้วนมากตั้งแต่เด็กจะมีไขมันสะสมบริเวณคอ คาง แก้มเป็นจำนวนมาก โดยทั่วไปเด็กมักไม่สนใจรูปร่างหน้าตาของพวกเขา แต่เมื่อโตขึ้นต้องอยู่ในสังคมมีการแต่งตัวมากขึ้น จึงพบว่าตัวเองเริ่มมีปมด้อย บางครั้งการลดน้ำหนักไม่ได้ทำให้คางหรือใบหน้าลดลงได้มากเท่าที่ต้องการ

ในวัยผู้ใหญ่

ในคนอายุ 19-28 ปี ใบหน้าจะเรียวสวย สามารถมองเห็นโครงสร้างของกระดูกขากรรไกรและคอได้อย่างชัดเจน แต่หลังอายุ 35-40 ปี จะมีความหย่อนคล้อยที่แก้มเล็กน้อย พร้อมกับการสะสมของไขมันที่คอและคาง ทำให้เส้นกรามพร่ามัว ใบหน้าเริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนสูงวัย เริ่มจากการสะสมไขมันในบริเวณนี้จะเห็นได้ชัดเจนในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง เพราะไขมันสะสมในผู้หญิงเกิดขึ้นตั้งแต่วัยรุ่น

การสะสมของไขมันบริเวณส่วนล่างของใบหน้าทำให้ดูแก่เร็ว การดูดไขมันเพื่อให้รูปหน้าดีขึ้นสามารถทำได้ในวัยนี้ เพราะความยืดหยุ่นของผิวยังดีอยู่ การดูดไขมันที่ดีสามารถเปลี่ยนรูปหน้าคุณได้ ดูอ่อนกว่าวัยด้วยรอยแผลเป็นเล็ก ๆ จึงถือเป็นเทคนิคหนึ่งที่เหมาะกับคนอายุไม่มาก ผิวไม่หย่อนคล้อยจนเกินไป แต่ถ้าคนอายุ 60 ปี ผิวหนังเริ่มเสื่อมสภาพ ดูดไขมันอาจจะไม่พอ ต้องศัลยกรรมหน้าด้วยการดึงหน้าร่วมด้วย

• เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุประมาณ 30-40 ปี ผิวยังคงมีความยืดหยุ่นที่ดีอยู่
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาการสะสมไขมันส่วนเกินบนใบหน้า เช่น บริเวณแก้มล่าง แนวกราม ใต้คาง
• เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวยืดหยุ่นดี (อายุยังไม่มาก ไม่มีความหย่อนคล้อยของผิวหนังมากเกินไป)
• สำหรับผู้สูงวัยจนผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย การดูดไขมันเพียงอย่างเดียวคงจะไม่เพียงพอ แนะนำให้ทำการดึงหน้าเพื่อผลลัพธ์สูงสุด

ข้อดี

• ใช้เวลาในการพักฟื้นสั้น
• มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าการผ่าตัดกระดูก
• เห็นผลทันทีหลังการผ่าตัด โดยปกติ 3-5 วัน
• ใช้เวลาเพียง 40-60 นาทีในการกำจัดไขมันในขณะที่คนไข้หลับ คุณจะไม่รู้สึกเจ็บหลังการผ่าตัด

ข้อเสีย

• คนไข้อาจมีใบหน้าที่ใหญ่ขึ้น ถ้าคนไข้น้ำหนักมากขึ้น
• คนไข้ต้องรักษาน้ำหนักให้เท่าเดิมหรือลดตามวันที่ทำการผ่าตัด
• แม้จะดูเป็นศัลยกรรมเล็ก แต่มีศัลยแพทย์ไม่กี่คนที่ดูดไขมันเก่ง
• หลังการผ่าตัดอาจมีก้อนไตอยู่ใต้คาง ซึ่งใช้เวลาในการสลายหายไป
• มีรอยฟกช้ำหลังใต้คางและคอหลังการผ่าตัด ใช้เวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ในการรักษา

• ควรหลีกเลี่ยงยาที่จะส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด เช่น แอสไพริน อย่างน้อยสองสัปดาห์ก่อนการผ่าตัด
• งดวิตามินทุกชนิด อาหารเสริม เช่น วิตามินอี น้ำมันตับปลา เมล็ดองุ่น ใบแปะก๊วย โสม อย่างน้อย 1 เดือนก่อนผ่าตัด
• คนไข้ต้องสระผมก่อนวันผ่าตัด หากทำการผ่าตัดบริเวณใบหน้าให้งดแต่งหน้าในวันผ่าตัด
• งดสูบบุหรี่อย่างน้อย 4 สัปดาห์ก่อนและหลังการผ่าตัด เนื่องจากสารในบุหรี่จะทำลายเซลล์ที่จะซ่อมแซมการสมานแผล ทำให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณที่ทำการผ่าตัดลดลง  มีโอกาสที่ผิวหนังที่ผ่าตัดจะขาดเลือด หายช้า เสี่ยงต่อการติดเชื้อมากกว่า
• งดดื่มแอลกอฮอล์ 1-2 วันก่อนผ่าตัด และ 1 สัปดาห์หลังผ่าตัด
• เตรียมตัวให้พร้อม อย่าตื่นเต้นจนเกินไป หลังการผ่าตัดมีโอกาสช้ำเกิดความเปลี่ยนแปลงได้  ซึ่งต้องใช้เวลากว่าเข้าที่หรือชินกับภาพลักษณ์ใหม่
• สำหรับผู้หญิง ควรหลีกเลี่ยงการดูดไขมันในช่วงมีประจำเดือนและหลังมีประจำเดือนสองสามวัน ซึ่งมีผลต่อระดับฮอร์โมนในร่างกาย ช่วงนั้นร่างกายของเราบวมขึ้นในช่วงเวลานั้น ทำให้เราเสี่ยงต่อการตกเลือดมากขึ้น
• ในวันที่ผ่าตัดให้พาเพื่อนไปด้วย ของมีค่าควรเก็บไว้ที่บ้าน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องใส่ในวันผ่าตัด
• ไม่แนะนำให้ขับรถไปเองในวันผ่าตัด เพราะความกังวลหลังการผ่าตัดจะทำให้ไม่มีสมาธิในการขับรถ ขอแนะนำให้ใช้บริการรถสาธารณะเพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ

• เปิดแผลผ่าตัดเล็ก ๆ โดยทั่วไป รอยแผลเป็นจะซ่อนอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ชัดเจน เช่น หลังใบหู ด้านหน้าใบหู ใต้คาง ขอบจมูก หรือในรูจมูก
• ฉีดยาชา ยาห้ามเลือดใต้ผิวหนังรอประมาณ 10 นาที
• การดูดไขมันโดยใช้หัวดูดขนาดเล็กดูดในตำแหน่งที่ต้องการ
• หากแผลมีขนาดเล็ก อาจไม่จำเป็นต้องเย็บแผล
• ปิดแผล

• แพทย์จะทำการรัดผ้าให้ทั่วใบหน้าในวันแรกหลังกลับบ้าน วันรุ่งขึ้นสามารถเอาผ้าพันแผลออกได้ทำความสะอาดบาดแผลด้วยน้ำเกลือแล้วเปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่แล้วรัดเหมือนเดิม หรือเปลี่ยนเป็นสวม Face Support พร้อมสายรัดพิเศษสำหรับส่วนใดส่วนหนึ่งโดยเฉพาะ
• (Compression Garment) ในช่วง 2-4 สัปดาห์แรกหลังทำ แนะนำให้กระชับอย่างต่อเนื่อง
• แผลผ่าตัดจะมีน้ำเกลือปนเลือดซึมออกมาในช่วง 1-2 วันแรก ควรเปลี่ยนผ้าก๊อซอย่างน้อยวันละครั้งเพื่อให้สะอาด ป้องกันการติดเชื้อที่แผลผ่าตัด
• อาจเกิดอาการบวม ช้ำ ปวด ชา หรือแสบร้อนได้ หลังจากหนึ่งถึงหกเดือน อาการบวม เขียว รอยฟกช้ำจะหายไป
• งดทำงานหนักหรือออกกำลังกายหนัก ๆ ในบริเวณที่ดูดไขมันอย่างน้อย 2-4 สัปดาห์
• หลังจากตัดไหมแล้ว แผลจะเริ่มสมานแห้งสนิทภายใน 1-2 สัปดาห์ หากมีแผลนูนแข็ง ให้นวดเบา ๆ ด้วยปลายนิ้วรอบ ๆ แผล เพื่อลดความตึงของแผล หรือหากมีรอยดำก็สามารถทารอยแผลเป็นให้หายได้ หรือรับบริการเลเซอร์ลบรอยแผลเป็น
• รอยแผลเป็นจะสังเกตเห็นได้ชัดเจนใน 2-3 เดือนแรก รอยแผลเป็นจะค่อย ๆ จางลง เป็นปกติในหนึ่งปี ควรหลีกเลี่ยงการอาบแดดในช่วงแรกหลังการผ่าตัด การทาครีมกันแดดบริเวณแผลควรทำด้วยครีมกันแดดที่มี SPF 15 ขึ้นไป
• หลังดูดไขมันวันแรกสามารถอาบน้ำได้ตามปกติ ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้แผลเปียกน้ำจนกว่าจะถึงเวลาตัดไหม
• รักษาแผลให้แห้งแผลจะต้องสะอาด อย่าปล่อยให้เลือดเปื้อนบาดแผล
• ใช้ยาต้านการอักเสบ ยาลดบวมตามที่แพทย์กำหนด หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่เป็นเวลาอย่างน้อยสองถึงสี่สัปดาห์หรือจนกว่าแผลจะหาย การไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จะช่วยลดหน้าบวมได้

• หลังจากดูดไขมันบนใบหน้าแล้ว ควรมีการนวดกระชับผิวด้วยคลื่นพลังงาน RF (Radio Frequency) เพื่อช่วยเพิ่มความกระชับให้แก่ผิวหน้าเร็วยิ่งขึ้น
• หลังจากดูดไขมันบนใบหน้าแล้ว ควรสวมชุดกระชับสัดส่วน เพราะการสวมใส่ชุดยกกระชับใบหน้าสามารถช่วยห้ามเลือด ลดอาการบาดเจ็บได้ ที่สำคัญคือช่วยทำให้ผิวหนังหดตัวเข้ารูปได้เร็วขึ้น

การดูดไขมันบนใบหน้าจะไม่เห็นผลถาวร ไม่เหมือนการลดน้ำหนักที่เซลล์ไขมันคงอยู่ เพียงแต่ลดขนาดลงเท่านั้นจากการที่เราผอมลง การดูดไขมันใบหน้า ซึ่งจะดึงเซลล์ไขมันในบริเวณนั้นออกมา กล่าวอีกนัยหนึ่งหากน้ำหนักคงที่การดูดไขมันก็จะได้ผลเช่นเดียวกัน แต่ถ้าน้ำหนักขึ้นก็อาจทำให้บริเวณอื่น ๆ กลับมาใหญ่เหมือนเดิม

นั่นหมายความว่าการดูดไขมันหน้า ดูดไขมันต้นแขน ไม่สามารถดูดได้อย่างถาวร หากเรามีน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้นก็จะทำให้หน้าของเราอ้วนขึ้นได้นั่นเอง แต่หากอยากเห็นผลชัดเจนจะต้องควบคุมน้ำหนักให้คงที่จะทำให้หน้าของคุณเรียวงามตามที่คุณต้องการนั่นเอง

ความเจ็บปวดมักเกิดขึ้นในระหว่างการฉีดยาชาเท่านั้น หากแพทย์มีความชำนาญใช้อุปกรณ์ที่ถูกต้องก็จะเจ็บน้อยมาก หลังจากนั้นเมื่อเริ่มดูดไขมันไม่มีผู้ป่วยรายใดบ่นถึงความเจ็บปวดเลย หลายคนอาจหลับไประหว่างการทำหัตถการ อาการเขียวช้ำเกิดขึ้นไม่บ่อยหากใส่ชุดกระชับทันที การดูดไขมันที่หน้าจริง ๆ สามารถกลับไปทำงานได้เลย  เมื่อคนไข้รู้สึกเจ็บปวด คนไข้มักจะต้องพักผ่อนสักหนึ่งหรือสองวัน

หากคุณทำงานที่บ้าน คุณก็สามารถทำได้ทันที ไม่มีปัญหา ไม่เคยรู้สึกเจ็บจนงอคอหรือนอนไม่ได้มาก่อน คนไข้ส่วนใหญ่ไม่ยอมไปทำงานเพราะต้องใส่เสื้อผ้ารัดรูป ทำให้พูดไม่สะดวกหรืออ้าปากไม่สะดวก จึงอยากอยู่บ้านเฉย ๆ มากกว่า ปกติจะให้ใส่ตลอดเวลา 1-2 วัน เพื่อทำให้อาการเขียวช้ำหาย หลังจากครบสองวันแล้วก็ให้ใส่เฉพาะตอนกลางคืนเมื่อไม่มีใครดู การสวมใส่ช่วยทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

เนื่องจากการดูดไขมันเป็นพื้นที่ขนาดเล็กและผิวบอบบาง ควรใช้ยาชาเฉพาะที่ เลือกสถานที่ให้บริการดูดไขมันหน้าที่ไหนดี ต้องคำนึงถึงวิธีการดูดด้วยว่าเครื่องดูดไขมันชนิดใดที่ใช้ เหมาะสำหรับการดูดไขมันใบหน้าหรือไม่

ที่รัตตินันท์คลินิกจะดูดไขมันด้วยเครื่อง BodyTite ร่วมกับ PAL ซึ่งมีข้อดีคือ มีอุปกรณ์หลากหลายให้เลือกตามแต่ละส่วนอย่างเหมาะสม สนใจดูดไขมันใบหน้าสามารถเข้ามาปรึกษารายละเอียดก่อนได้เลย ทางคลินิกของเราให้คำปรึกษาดูดไขมันเหนียงฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น อยากมีหน้าสวยมาที่รัตตินันท์คลินิกไม่ผิดหวังแน่นอน