ดูดไขมัน กำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วน ที่ไหนดี รีวิวข้อดีข้อเสีย

ดูดไขมัน

ความงามและสุขภาพดี เป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่ฝัน และหนึ่งในสิ่งที่สร้างความมั่นใจให้กับเรานั้นคือการมีรูปร่างที่ดีและสมส่วน การมีไขมันส่วนเกินบางส่วนบนร่างกายอาจทำให้เราขาดความเชื่อมั่นในตัวเอง ในบางครั้งการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารอาจไม่เพียงพอในการจำกัดไขมันเหล่านี้ เหตุนี้เอง การ ดูดไขมัน เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ดูดไขมัน เป็นวิธีการในการกำจัดไขมันส่วนเกินจากร่างกาย ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ สามารถแก้ปัญหาไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วนของร่างกายได้เช่น ดูดไขมันหน้าท้อง ดูดไขมันต้นขา ดูดไขมันเหนียง ดูดไขมันต้นแขน และส่วนที่ลดยากอื่น ๆ  แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ

ควรทราบว่าการดูดไขมันไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนัก แต่เป็นวิธีการจัดการกับไขมันส่วนเกินที่กำจัดออกยากถึงแม้จะออกกำลังกายและการควบคุมอาหาร ก็ไม่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ ดังนั้นการดูดไขมันเป็นวิธีการที่เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันสะสมที่ไม่สามารถกำจัดได้ด้วยวิธีการทั่วไป ดังนั้นการดูดไขมันจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีและเห็นผลได้จริง

การดูดไขมัน คืออะไร แก้ปัญหาโรคอ้วนได้จริงหรือไม่

การ ดูดไขมัน ไม่ใช่การลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน แต่เป็นการกระชับสัดส่วน เพราะในความจริงแล้วไขมันมีน้ำหนักที่เบามากหากเปรียบเทียบกับกระดูกและกล้ามเนื้อ หลังดูดไขมันน้ำหนักอาจจะลดลงเพียงแค่ 1 กิโลกรัมโดยประมาณ รับประทานอาหาร 1-2 มื้อน้ำหนักก็กลับมาเท่าเดิม ไม่ได้ช่วยให้ผอมลง หรือไม่สามารถเปลี่ยนคนอ้วนให้เป็นคนผอมได้ หากต้องการลดความอ้วนยังคงต้องออกกำลังกายและควบคุมอาหารร่วมด้วย

การดูดไขมัน (Liposuction) คือกระบวนการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการลดปริมาณไขมันในเฉพาะของร่างกาย เช่น ไขมันหน้าท้อง สะโพก ต้นแขน ต้นขา เหนียง เอว และส่วนอื่น ๆ ที่ลดยาก การดูดไขมันยังถือเป็นทางลัดในการลดสัดส่วนอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มีความปลอดภัย เห็นผลได้อย่างชัดเจน เพิ่มความสมดุลและสวยงามให้กับรูปร่าง

การดูดไขมันนั้นสามารถช่วยลดปริมาณไขมันในบริเวณที่เลือกได้ โดยใช้วิธีการส่งความถี่สูงผ่านอุปกรณ์ดูดไขมัน ซึ่งจะดูดไขมันออกจากเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง แต่จำเป็นต้องระวังการดูดไขมันในปริมาณที่เกินไปเนื่องจากอาจเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น ภาวะบวม ฟกช้ำ หรือการเสื่อมสภาพของผิวหนังในระยะยาว

ดูดไขมันเหนียง

วิธีการดูดไขมันและกำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

เครื่องมือที่เป็นที่นิยมในกระบวนการดูดไขมันมาตรฐานส่วนใหญ่ คือการใช้เครื่องมือที่ช่วยในการแตกตัวและดูดออกจากกล้ามเนื้อโดยใช้ระบบสุญญากาศหรือแรงดันลบ (negative pressure) วิธีการนี้ได้ผลดีอย่างมากในการดูดไขมันและได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน นอกจากนี้ยังมีการคิดค้นและพัฒนาเครื่องมือใหม่เพื่อช่วยในกระบวนการดูดไขมันอย่างมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสำหรับแพทย์ ตัวอย่างเช่น

1. การใช้แรงดันน้ำ (Waterjet Liposuction): วิธีการนี้ใช้แรงดันน้ำสูงเพื่อช่วยในกระบวนการดูดไขมัน ระบบน้ำจะถูกจ่ายออกจากหัวดูดไปยังที่ที่ต้องการผ่าตัด แรงดันน้ำสามารถช่วยในการแตกตัวของไขมันและดูดออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิธีการนี้สามารถลดอาการบวมและฟกช้ำหลังการดูดไขมันได้มากกว่าเครื่องมืออื่น ๆ

2. การใช้เลเซอร์ (Laser Liposuction): เลเซอร์ถูกนำมาใช้ในกระบวนการดูดไขมันเพื่อช่วยในการละลายไขมันและก่อให้เกิดการแตกตัวของไขมัน วิธีการนี้ใช้เลเซอร์เพื่อกระตุ้นให้เซลล์ไขมันสลายตัว ทำให้การดูดไขมันเป็นไปอย่างรวดเร็วและง่ายขึ้น การใช้เลเซอร์ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในเนื้อเยื่อและผิวหนัง ช่วยให้ผิวดูกระชับมากขึ้นในขณะที่ไขมันถูกดูดออก

3. การใช้คลื่นเสียงความถี่สูง (Ultrasonic Liposuction): วิธีการนี้ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงเพื่อทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว ซึ่งระบบคลื่นเสียงจะถูกส่งผ่านแท่งขนาดเล็กเข้าไปในชั้นของไขมัน เมื่อคลื่นเสียงชนกับไขมันจะเกิดการสั่นสะเทือนซึ่งทำให้เซลล์ไขมันแตกตัวและกระจายตัวออก วิธีการนี้มักจะถูกใช้ในพื้นที่ที่ไขมันมีความหนาแน่นมาก เช่น ท้องข้างหรือสะโพก

การดูดไขมันเป็นกระบวนการที่มีความซับซ้อน ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมและคำแนะนำที่ถูกต้องสำหรับแต่ละบุคคลก่อนการตัดสินใจในการดำเนินกระบวนการดูดไขมัน

ติดต่อสอบถาม ปรึกษาแพทย์
ผ่านช่องทางไลน์ หรือโทรศัพท์

086-570-7040

สแกน QR Code เพื่อแอดไลน์

การดูดไขมัน เหมาะกับใครบ้าง และใครที่ไม่ควรดูดไขมัน ?

การดูดไขมัน ผู้เข้ารับบริการต้องมีค่าดัชนีมวลกายตามหลักเกณฑ์ของการดูดไขมัน ซึ่งค่าดัชนีคืออะไร หลักเกณฑ์การดูดไขมัน หากผู้สนใจดูดไขมันต้องตรวจสอบค่าดัชนีมวลกายก่อนว่ามีค่า BMI เท่าใด การดูดไขมันแบบใดสามารถทำได้ในช่วง 20-29 หากค่าดัชนีมวลกาย 30 ขึ้นไป แพทย์อาจแนะนำให้ทำการผ่าตัดลดขนาดกระเพาะแทนเนื่องจากเข้าข่ายภาวะโรคอ้วน

การดูดไขมันวิธีนี้เหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหา รูปร่างไม่สมส่วน คนที่ออกกำลังกายแล้วไม่ลด ผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักทันที คนที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ ผู้ที่ต้องการเสริมรูปร่าง และผู้ที่มีไขมันสะสมเฉพาะส่วนที่ลดยาก เช่น หน้าท้อง สะโพก หรือ ดูดไขมันต้นขา ราคา การดูดไขมันสามารถช่วยลดขนาดและรูปร่างของบริเวณนั้น ๆ และทำให้ร่างกายดูกระชับขึ้น

นอกจากนี้ การดูดไขมันไม่เหมาะสำหรับบุคคลที่มีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรง เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคไต โรคตับ หรือปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับการหยุดฟื้นตัวหรือผ่าตัดเมื่อไม่นานมานี้ ก่อนที่จะตัดสินใจดูดไขมันควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินความเหมาะสมและความปลอดภัยของกระบวนการสำหรับบุคคลนั้น ๆ

ปัญหาพุงป่อง ดูดไขมันหน้าท้องช่วยได้หรือไม่

การ ดูดไขมันหน้าท้อง เป็นกระบวนการทางศัลยกรรมที่ใช้เพื่อลดปริมาณไขมันและผิวหนังเก่าที่อยู่รอบบริเวณท้องที่มีปัญหาพุงป่อง เป็นวิธีการที่ช่วยลดสัดส่วนและรูปร่างที่ไม่สมดุลของบริเวณหน้าท้องให้ดูสมส่วนมากขึ้นได้ ช่วยแก้ปัญหาพุงป่อง ท้องยื่น ท้องย้อย ท้องหย่อนคล้อย หรือท้องลาย เพื่อให้หน้าท้องเรียบเป็นรูปแบบที่ผู้รับการดูดไขมันหน้าท้องต้องการ

กระบวนการดูดไขมันหน้าท้องจะเริ่มต้นด้วยการประเมินสภาพและออกแบบการดูดไขมันที่เหมาะสมกับผู้รับการรักษา ศัลยแพทย์จะพิจารณาความต้องการของผู้รับบริการ ว่าต้องการดูดไขมันเพื่อสร้างกล้ามเนื้อหรือปรับให้หน้าท้องแบนเรียบ ลดไขมันหน้าท้อง ผู้ชาย หรือแต่งกล้ามเนื้อและลดไขมันพร้อมกันได้ตามความเหมาะสม หลังจากนั้นศัลยแพทย์จะดำเนินการดูดไขมันหน้าท้องโดยใช้เครื่องดูดไขมัน ซึ่งอาจใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น เทคนิคดูดไขมันแบบคลาสิกหรือเทคนิคดูดไขมันแบบเลเซอร์

อย่างไรก็ตาม การดูดไขมันหน้าท้องไม่ใช่วิธีการลดน้ำหนักหรือวิธีการรักษาโรคอ้วน แต่เป็นกระบวนการที่ช่วยลดไขมันสะสมใต้ชั้นผิวเพื่อเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าท้องให้มีความสมดุลและสอดคล้องกับความต้องการของผู้รับการดูดไขมันหน้าท้อง หากใครที่มีพุงป่อง การ ดูดไขมันหน้าท้อง ราคา สามารถช่วยแก้ปัญหานี้ได้

ดูดไขมันหน้าท้อง ราคา

ดูดไขมันมีขั้นตอน และเทคนิค อย่างไร อันตรายหรือไม่ ?

โดยทั่วไปการดูดไขมันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ วิธีแบบดั้งเดิมโดยใช้การดมยาสลบ และวิธีปัจจุบันโดยการดูดไขมันด้วยเทคนิค tumescent หรือการใส่ยาชากับน้ำเกลือเข้าไปในเนื้อเยื่อไขมัน ด้วยท่อขนาดเล็กและอุปกรณ์สุญญากาศ โดยจะทำการดูดไขมันในบริเวณที่ต้องการออก ขั้นตอนหลัก ๆ ของการดูดไขมันคือ

น้ำเกลือที่ประกอบด้วยยาชาและอะดรีนาลีนจะถูกฉีดเข้าไปในเนื้อเยื่อไขมัน เพื่อช่วยระงับความรู้สึกและลดการสูญเสียเลือด ข้อดีของการดูดไขมันด้วยเทคนิคนี้คือความปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น ช่วยขจัดไขมันได้อย่างง่ายดาย ยังช่วยลดรอยฟกช้ำ บวม และช่วยลดความรู้สึกไม่สบายต่าง ๆ หลังการดูดไขมัน แพทย์จะสอดท่อเล็กๆ เข้าไปในเนื้อเยื่อไขมัน และใช้อุปกรณ์สุญญากาศดูดไขมันในบริเวณที่ต้องการ และหลังจากทำเสร็จแล้ว แพทย์จะพันผ้าพันแผลรอบบริเวณดูดไขมันเพื่อช่วยลดอาการบวมและทำให้แผลสมานได้ง่ายขึ้น

ผู้ที่ดูดไขมันอาจไม่ต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ขั้นตอนการดูดไขมันใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับประเภทของการดูดไขมัน และหลังจากทำการดูดไขมันเรียบร้อยแล้ว อาจต้องสังเกตอาการประมาณหนึ่งชั่วโมง ผู้เข้ารับบริการควรทราบตั้งแต่เริ่มแรกว่าหลังจากการดูดไขมันเสร็จสิ้นแล้ว ดูดไขมันเจ็บไหม จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่บริเวณดูดไขมันจะเกิดรอยฟกช้ำ บวม มีความเจ็บปวดหลังจากที่ได้ทำการดูดไขมัน แต่จะเป็นไม่นานไม่กี่สัปดาห์เท่านั้น

หลายคนอาจจะมีคำถามว่าการดูดไขมัน อันตรายไหม

เราบอกได้เลยว่าการดูดไขมันไม่ได้เหมาะสำหรับทุกคน ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของคนไข้และการประเมินของแพทย์ควบคู่กันไป ซึ่งคนที่ไม่ควรดูดไขมัน หรือดูดไขมันแล้วมีความเสี่ยง คือ ผู้ที่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคแพ้ภูมิตัวเอง โรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมได้ โรคไทรอยด์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ และอีกกรณีหนึ่งคือ เคสที่มีผิวหนังย้วยมาก ในกรณีนี้อาจจำเป็นต้องใช้การผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) หรือยกกระชับสัดส่วนด้วยความร้อนสูง เช่น J Plasma ควบคู่กับการดูดไขมันแทน ซึ่งถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดในแวดวงการปรับรูปร่างตามร่างกาย

เตรียมตัวอย่างไร ไม่ให้เกิดความเสี่ยง เมื่อต้องการดูดไขมัน

การเตรียมตัวให้ดีก่อนดูดไขมันเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อเป็นการลดความเสี่ยง ดูดไขมัน อันตรายไหม วันนี้เราขอนำเสนอข้อมูลสำหรับทุกคนที่ต้องการดูดไขมัน หากคุณตัดสินใจทำโปรดสอบถามแพทย์และคลินิกที่คุณเข้ารับการดูดไขมัน เพราะแต่ละคลินิกอาจมีคำแนะนำที่แตกต่างกันออกไป

งดยา อาหารเสริมบางชนิดก่อนการดูดไขมัน 2 สัปดาห์

งดยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือด แอสไพริน ยาแก้ปวดบางชนิด ในการดูดไขมันจำเป็นต้องใช้ยาชาที่เรียกว่าลิโดเคนในปริมาณที่สูง อาหารเสริมประเภทน้ำมันปลาหรือวิตามินอี มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ก่อนที่จะทำการดูดไขมันประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ควรงดเพื่อช่วยในการลดการเขียวช้ำและทำให้ฟื้นตัวง่ายขึ้น

งดการสูบบุหรี่ 2 อาทิตย์ก่อนการดูดไขมัน

การสูบบุหรี่ก่อนการผ่าตัดเพิ่มความเสี่ยงของการรักษาบาดแผลทำให้แผลหายช้าและไม่เกาะติด ซึ่งรวมถึงการใช้นิโคตินหรือบุหรี่อิเล็กทรอนิกส์ที่มีนิโคตินชนิดเดียวกัน หากคุณไม่สามารถหยุดสูบบุหรี่ก่อนและหลัง คุณควรตระหนักถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการสูบบุหรี่

แจ้งแพทย์ตามตรง ถึงเรื่องโรคประจำตัว

สิ่งสำคัญคือต้องแจ้งให้แพทย์ทราบถึงโรคประจำตัวก่อนทำการดูดไขมัน อย่ากังวลว่าคุณจะพูดมากเกินไป แพทย์ไม่ทำให้ ความปลอดภัยในการผ่าตัดมีความสำคัญมากกว่า โดยเฉพาะการศัลยกรรมเสริมความงามที่อาจถือว่าไม่สำคัญหรือเร่งด่วนอะไร

เตรียมชุดกระชับ ก่อนดูดไขมัน ให้เรียบร้อยและนำมาด้วย

สำหรับการดูดไขมันนั้น หากไม่มีชุดกระชับสัดส่วนก่อนดูดไขมัน บางคลินิกจะขอเลื่อนเคสออกไปก่อน เพื่อความปลอดภัย เราไม่แนะนำให้ทำแล้วกลับไปใส่ที่บ้าน ชุดกระชับสัดส่วนมีประโยชน์มากในช่วง 24-36 ชั่วโมงแรกหลังทำหัตถการ มีหน้าที่กดเลือดและทำให้แผลสมานเร็วและราบรื่น ชุดที่กระชับพอดีตัวต้องมีความยืดหยุ่นสูง เพราะในวันแรก คุณจะต้องคลุมแผ่นซับอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้แน่นกว่าตอนลอง ชุดกระชับราคาถูกมักจะไม่สามารถขยายหรือไม่มีตัวปรับหรือซิปเพื่อขยายและหดได้

ดูดไขมันที่ไหนดี

การดูแลหลังกระบวนการดูดไขมันและกำจัดไขมันส่วนเกิน

การดูแลสุขภาพและลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่สำคัญในชีวิตประจำวันของเรา การสะสมไขมันเกินจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและสุขภาพอย่างมาก การดูดไขมันเป็นวิธีที่ดีในการลดน้ำหนักเฉพาะจุดและรักษาสุขภาพที่ดีในระยะยาว

  • วางแผนเป้าหมายและการดูดไขมัน: การตั้งเป้าหมายชัดเจนเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความสำเร็จในการลดน้ำหนัก วางแผนการดูดไขมันที่เหมาะสมและคำนึงถึงความเหมาะสมของร่างกายของคุณ ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการหรือแพทย์เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสมตามสภาวะสุขภาพของคุณเอง
  • ควบคุมอาหาร:หลังการดูดไขมันให้มีประสิทธิภาพคือการควบคุมอาหารที่คุณบริโภค ลดปริมาณอาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารจากเนื้อสัตว์ที่มีไขมันสูง และอาหารที่มีน้ำตาลสูง เพิ่มการบริโภคผักและผลไม้สด และเลือกใช้แหล่งโปรตีนที่มีประโยชน์ เช่น เนื้อไก่ ปลา ถั่ว เพื่อสร้างสมดุลทางโภชนาการในอาหารของคุณ
  • ออกกำลังกาย: การออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างกระบวนหลังการดูดไขมัน คุณควรเลือกกิจกรรมที่คุณชอบและสามารถทำได้เป็นประจำ เช่น เดินเร็ว วิ่งเก็บระยะทาง ว่ายน้ำ หรือเล่นกีฬาต่าง ๆ ควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวันหรือสูงกว่านั้นเพื่อเพิ่มการเผาผลาญพลังงานและการลดน้ำหนัก
  • ดื่มน้ำเพียงพอ: การดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญในการลดน้ำหนักและสุขภาพที่ดี น้ำช่วยเพิ่มการตัดสินใจที่ดีในการรับประทานอาหาร และช่วยเผาผลาญพลังงาน คุณควรดื่มน้ำอย่างน้อย 8-10 แก้วต่อวันหรือตามความต้องการของร่างกายของคุณ
  • พักผ่อนเพียงพอ: การพักผ่อนเพียงพอมีผลต่อการลดน้ำหนักและสุขภาพที่ดี การนอนหลับเพียงพอช่วยควบคุมระดับฮอร์โมนในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมน้ำหนัก พยายามให้คุณนอนอย่างน้อย 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

การดูดไขมันเพื่อกระชับสัดส่วน และการลดน้ำหนักเพื่อสุขภาพที่ดีไม่ใช่เรื่องที่เรียนรู้และปฏิบัติได้ในวันเดียว มันเป็นกระบวนการที่ต้องให้ความร่วมมือระหว่างการดูแลตนเอง การออกกำลังกาย และการบริโภคอาหารที่ถูกต้อง โดยต้องให้ความสำคัญกับการรักษาวิถีชีวิตที่สมดุล เพื่อให้คุณสามารถลดน้ำหนักอย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสุขภาพที่ดีในระยะยาวได้

ดูดไขมันที่ไหนดี ทางเลือกที่ปลอดภัยและทันสมัย

ดูดไขมันที่ไหนดี การเลือกคลินิกดูดไขมันที่ดีเป็นสิ่งสำคัญเมื่อคุณต้องการลดไขมันในบริเวณที่ไม่ต้องการ ด้วยเหตุนี้แนะนำให้คุณตรวจสอบเรื่องทักษะและประสบการณ์ของแพทย์ที่ทำการดูดไขมันมาแล้วว่าเป็นอย่างไร นอกจากนี้ยังควรพิจารณาคลินิกที่มีใบรับรองคลินิกและมีมาตรฐานการให้บริการที่ดี

  • คลินิกที่ดีนั้นควรใช้เครื่องดูดไขมันรุ่นที่ได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้ว่าคลินิกใช้เครื่องดูดไขมันรุ่นใด นอกจากนี้คุณควรสอบถามเกี่ยวกับเทคนิคดูดไขมันที่ใช้ด้วยว่าเป็นอย่างไร
  • อีกสิ่งหนึ่งที่ควรพิจารณาคือว่าเครื่องดูดไขมันที่ใช้เป็นเครื่องแท้หรือไม่ คุณสามารถสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นและประวัติของเครื่องดูดไขมันได้
  • ห้องผ่าตัดที่ใช้ในการดูดไขมันควรเป็นห้องคลีนรูมที่ผ่านการรับรอง เพื่อให้มั่นใจว่ามีมาตรฐานและเงื่อนไขที่เหมาะสมในการดูดไขมัน
  • การดูดไขมันแบบยาชาหรือยาสลบเหมาะกับบุคคลใดบุคคลหนึ่งและมีข้อดีและข้อเสียบางอย่าง ดังนั้นคุณควรพิจารณาตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับคุณ
  • ความใส่ใจของคลินิกและบริการที่คุณได้รับเป็นสิ่งที่สำคัญ เนื่องจากการดูดไขมันอาจเป็นกระบวนการที่ซับซ้อน คุณควรแน่ใจว่าคลินิกมีความเอาใจใส่และให้บริการที่ดีให้กับคุณ
  • เมื่อดูดไขมันเสร็จสิ้นแล้วคุณควรสอบถามเกี่ยวกับบริการหลังดูดไขมัน (AFTER CARE) ที่คลินิกมีหรือไม่ เนื่องจากอาจมีการดูแลและคำแนะนำเพิ่มเติมที่คุณต้องการหลังการดูดไขมัน
ลงทะเบียน

ไขมันส่วนเกินและผลกระทบต่อสุขภาพ

ไขมันส่วนเกิน หรือโรคอ้วน เกิดจากการสะสมของไขมันในร่างกายเกินไป สามารถวัดได้โดยใช้ดัชนีมวลกาย (BMI) ซึ่งคำนวณจากน้ำหนัก (กิโลกรัม) หารด้วยสี่เหลี่ยมของส่วนสูง (เมตร) ผู้ที่มี BMI ระหว่าง 25-29.9 ถือว่าน้ำหนักเกิน และคนที่มี BMI 30 หรือมากกว่าถือว่าโรคอ้วน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการทานอาหารที่ไม่ดี และขาดการออกกำลังกาย การสะสมไขมันส่วนเกินอาจเกิดจากการบริโภคอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูงเกินไป เช่น อาหารที่มีไขมันสูง น้ำตาลสูง และคาร์โบไฮเดรตสูง เช่น อาหารจานด่วน อาหารอบกรอบ ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เป็นต้น

การสะสมไขมันส่วนเกินมีผลกระทบต่อสุขภาพที่สำคัญ ไขมันส่วนเกินสามารถเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น

  • โรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมอง: ไขมันส่วนเกินสามารถสะสมในหลอดเลือด และทำให้เกิดการอุดตันได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดสมอง เช่น โรคหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ อัมพฤกษ์ของหลอดเลือดสมอง และอัมพาต ได้
  • โรคเบาหวาน: ไขมันส่วนเกินสามารถทำให้เกิดความต้านทานฮอร์โมนอินซูลิน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคเบาหวานได้
  • ความดันโลหิตสูง: ไขมันส่วนเกินสามารถเพิ่มความดันโลหิตเนื่องจากการสร้างเส้นทางเลือดที่แคบลง และเพิ่มปริมาณเลือดที่ต้องการถ่ายเทออกซิเจนเพิ่มขึ้น
  • โรคมะเร็ง: การสะสมไขมันส่วนเกินอาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคมะเร็งบางประเภท เช่น มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งต่อมลูกหมาก เป็นต้น
  • นอกจากนี้ ไขมันส่วนเกินยังส่งผลต่อสุขภาพจิตใจและปัจจัยเสี่ยงทางสังคม โดยอาจทำให้เกิดปัญหาเชิงจิตเวช เช่น ซึมเศร้า และปัญหาสังคมที่เกิดจากความไม่พอใจในรูปลักษณ์ตัวเอง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการสะสมไขมันส่วนเกิน

ปัจจัยที่สำคัญที่ส่งผลต่อการสะสมไขมันส่วนเกิน

  •  โภชนาการที่ไม่เหมาะสม: โภชนาการเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการสะสมไขมันส่วนเกิน การบริโภคอาหารที่มีปริมาณไขมันสูง น้ำตาลที่เยอะเกินไป และคาร์โบไฮเดรตที่ไม่ดีต่อร่างกาย อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และโรคอ้วน
  •  พฤติกรรมการรับประทานอาหาร: พฤติกรรมในการรับประทานอาหารมีผลต่อการสะสมไขมันส่วนเกิน การบริโภคอาหารเร็ว ๆ นั่งทานอาหารข้าวและขนมปังในปริมาณมาก การกินอาหารหลัง 8 โมงเย็น และการเลือกอาหารที่มีปริมาณแคลอรี่สูง เช่น อาหารแฮมเบอร์เกอร์ อาจเพิ่มโอกาสให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกินได้
  •  แบบชีวิตที่นั่งเฉียง: การนั่งทำงานหรือกิจกรรมที่ใช้พลังงานน้อยอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันส่วนเกิน ความนิยมของการนั่งทำงานที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีผลทำให้คนมีความกังวลในการออกกำลังกายลดลง
  •  สภาวะเครียดและนอนไม่เพียงพอ: การประสบกับสภาวะเครียดและการนอนไม่เพียงพออาจมีผลต่อการสะสมไขมันส่วนเกิน ความเครียดทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนสตรีซที่ส่งสัญญาณให้ร่างกายเก็บไขมันไว้เป็นพลังงานสำรอง นอนไม่เพียงพออาจเพิ่มระดับฮอร์โมนที่ส่งสัญญาณให้ร่างกายรับประทานอาหารมากขึ้น