อาการ เจ็บนม เป็นอาการที่พบได้บ่อยมากในผู้หญิง แม้จะเป็นเรื่องปกติแต่ความรุนแรงของอาการนั้นอาจแตกต่างกันไป สถิติบอกว่า 2 ใน 3 ของผู้หญิงทั่วไปมักจะเคยเจออาการเจ็บนม ควรสังเกตคือว่า อาการปวดที่เราเจอนั้นเกิดขึ้นจากประจำเดือนหรือมีสาเหตุอื่นที่ควรให้ความสนใจ อาการปวดเต้านมที่มาจากประจำเดือนมักเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนหรือระหว่างมีประจำเดือน
แต่อาจเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย อาการนี้มักเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ส่วนอาการที่มาจากสาเหตุอื่นอาจเกิดขึ้นจากปัจจัยหลาย ๆ ปัจจัย เช่น การเจ็บป่วยหรือการใช้ยาบางชนิด เพราะฉะนั้น หากคุณมีอาการปวดนมที่ไม่ค่อยเคยเกิดขึ้น หรือมีความรุนแรงมากขึ้นจากเดิม ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจสอบและรับคำแนะนำในการดูแลของเต้านมของคุณให้เหมาะสม
สาเหตุของอาการ เจ็บนม
อาการเจ็บนมเป็นอาการที่พบได้ในหลายสถานการณ์และมีหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุทำให้เกิดขึ้นได้ ดังนี้
- การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนระหว่างรอบเดือน สาเหตุหนึ่งที่อาจทำให้เต้านมเจ็บคือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายระหว่างรอบเดือน ในช่วงนี้ฮอร์โมนเอสโตรเจนและโพรเจสเทอโรนมักมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจทำให้เต้านมคัดตึง บวม หรือแข็งขึ้น อาการเจ็บนมจะลดลงเมื่อรอบเดือนสิ้นสุด แต่มักเจอน้อยในหญิงตั้งครรภ์และวัยทอง เนื่องจากเป็นช่วงที่ไม่มีรอบเดือน
- ก้อนหรือถุงน้ำในเต้านม มีหลายประเภทของก้อนหรือถุงน้ำที่อาจเกิดขึ้นในเนื้อเต้านม ตัวอย่างเช่น ก้อนไฟโบรซีสติค (Fibrocystic Breasts) ที่มักไม่ร้ายแรงและไม่กลายเป็นมะเร็ง ส่วนไฟโบรอะดีโนมา (Fibroadenoma) มักพบในผู้หญิงที่อายุน้อยหรืออยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ก้อนเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของอาการปวดเต้านม
- ภาวะเต้านมอักเสบ (Mastitis) เป็นภาวะที่เกิดจากการติดเชื้อในท่อน้ำนม มักพบในผู้หญิงที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร เนื่องจากมักมีบาดแผลขณะให้นมและมีการติดเชื้อ ซึ่งทำให้เต้านมอักเสบ บวม แดง และปวดนม ผิวบริเวณเต้านมอาจแตก มีอาการคัน หรือเป็นแผลที่หัวนม
- ฝีที่เต้านม (Breast Abscess) สาเหตุของภาวะนี้มักเกิดจากการติดเชื้อที่เต้านม ทำให้เต้านมบวม แดง และมีการสะสมน้ำหนอง อาการปวดและเจ็บเต้านมมักพบในภาวะเต้านมอักเสบ
- การบาดเจ็บบริเวณใกล้เคียงเต้านม การบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อ ข้อต่อ หรือเนื้อเยื่อใกล้กับเต้านมอาจส่งผลให้รู้สึกปวดเต้านม ตัวอย่างเช่น การบาดเจ็บที่คอ หัวไหล่ หรือหลัง กระดูกอ่อนบริเวณหน้าอกอักเสบ (Costochondritis)
- ยาบางชนิด บางครั้งอาการปวดเต้านมอาจเกิดขึ้นเนื่องจากผลข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านเศร้า ยาให้ฮอร์โมนทดแทน ยาในการรักษาโรคหัวใจ หรือยาคุมกำเนิดชนิดรับประทาน
- สาเหตุอื่น ๆ ที่อาจเป็นเหตุของอาการเจ็บเต้านม เช่น แผลหลังการผ่าตัดเต้านม ขนาดของหน้าอกที่ใหญ่กว่าปกติ การสูบบุหรี่ หรือการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง
การวินิจฉัยอาการเจ็บนม
เมื่อผู้ป่วยมีอาการเจ็บนม การวินิจฉัยสามารถทำได้โดยตรวจสอบประวัติทางการแพทย์และทำการตรวจร่างกายตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
- การสอบถามประวัติทางการแพทย์ แพทย์จะสอบถามผู้ป่วยเกี่ยวกับอาการที่เจอ ระยะเวลาที่มีอาการ ความรุนแรงของอาการ และประวัติสุขภาพทั่วไป เช่น ประวัติการมีโรคมะเร็งในครอบครัว ประวัติการใช้ยา หรือประวัติการตรวจเต้านมในอดีต
- การตรวจร่างกายทั่วไป แพทย์จะทำการตรวจร่างกายทั่วไปเพื่อตรวจหาอาการที่อาจมีความสัมพันธ์กับอาการเจ็บเต้านม เช่น การตรวจหาบาดแผล อาการบวมที่หน้าอก หรืออาการเจ็บที่มาจากหัวใจหรืออวัยวะใกล้เคียง
- การตรวจเต้านม แพทย์จะตรวจดูขนาดและรูปร่างของเต้านมว่ามีความผิดปกติหรือไม่ การคลำหาก้อนบริเวณเต้านม ใต้รักแร้ คอส่วนล่าง และระดับแขนข้างล่าง เพื่อตรวจสอบหาก้อนหรือความผิดปกติในเนื้อเต้านม
- การตรวจแมมโมแกรม (Mammogram) เป็นการถ่ายภาพรังสีของเนื้อเยื่อเต้านม กรณีที่แพทย์คลำพบก้อนเนื้อ มีขนาดหนาขึ้นผิดปกติ เพื่อตรวจหาความผิดปกติ
- การตรวจอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เป็นวิธีการถ่ายภาพเต้านมโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง เพื่อช่วยในการตรวจหาความผิดปกติในเนื้อเต้านม โดยเน้นไปที่จุดนั้นเป็นพิเศษ
- การตรวจเอ็มอาร์ไอ (MRI) ในบางกรณีที่ต้องการภาพถ่ายที่ชัดเจนมากขึ้น เช่น เมื่อมีความสงสัยเรื่องก้อนเนื้อร้าย แพทย์อาจแนะนำให้ทำ MRI เพื่อตรวจสอบเป็นเนื้อร้ายหรือไม่
- การตัดชิ้นเนื้อส่งตรวจ (Breast Biopsy) ในกรณีที่พบก้อนหรือความผิดปกติที่ต้องการตรวจระดับเซลล์และเนื้อเยื่ออย่างละเอียด แพทย์ทำการตัดชิ้นเนื้อเต้านมและส่งไปตรวจในห้องปฏิบัติการ
การวินิจฉัยอาการเจ็บเต้านมจะต้องขึ้นอยู่กับผลการตรวจและสาเหตุของอาการ หากมีความสงสัยถึงความผิดปกติใด ๆ แพทย์จะรวบรวมข้อมูลและตรวจสอบอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการรักษาตามความเหมาะสม
การรักษาอาการเจ็บนม
อาการเจ็บนมเป็นอาการที่หลายคนพบเจอเป็นประจำ แม้จะมักหายไปเอง แต่การดูแลและการรักษาอย่างถูกวิธีก็สามารถช่วยบรรเทาอาการและป้องกันอาการรุนแรงได้ เรามาดูขั้นตอนและแนวทางการรักษาเจ็บนม
- การประคบร้อนบริเวณเต้านมสามารถช่วยลดอาการปวดและบรรเทาการติดขัดของกล้ามเนื้อ ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นแล้วประคบบริเวณที่เจ็บเป็นเวลา 15-20 นาที ทำซ้ำตลอดวันตามความจำเป็น
- การประคบเย็นอาจช่วยลดการอักเสบ ใช้ถุงน้ำแข็งห่อด้วยผ้าบางแล้วประคบบริเวณเต้านมเป็นเวลาสั้น ๆ
- ความเครียดและวิตกกังวลอาจทำให้อาการปวดนมแย่ลง พยายามพักผ่อนและฝึกการหายใจลึก ๆ เพื่อควบคุมความเครียด
- คาเฟอีนอาจทำให้อาการเจ็บเต้านมแย่ลง จึงควรจำกัดการดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณที่พอดี
- ยาพาราเซตามอล (Paracetamol) เป็นยารักษาอาการปวดที่ปลอดภัย ควรทานตามคำแนะนำของแพทย์ การ
- พบแพทย์เมื่อมีอาการรุนแรงหรือเรื้อรังมากกว่า 2-3 สัปดาห์ ควรพบแพทย์เพื่อการตรวจรักษาและวินิจฉัยอาการ
บรรเทาอาการเจ็บนมยังไงได้บ้าง
เมื่อรู้สึกรู้สึกเจ็บและปวดเต้านมอาจต้องมีการดูแลและการปรับเปลี่ยนวิธีการดำเนินชีวิตเพื่อบรรเทาอาการได้ดังนี้
- เปลี่ยนบราใหม่ ขนาดของเต้านมมักเพิ่มขึ้น ควรเลือกบราที่เหมาะกับขนาดปัจจุบันของคุณ เพื่อให้รู้สึกสบายตัวมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงบราแบบโครงที่อาจกดทับบริเวณเต้านมและทำให้ปวดมากขึ้น
- ถ้าคู่สมรสชอบสัมผัสบริเวณเต้านม คุณควรสื่อสารและบอกให้เขารู้ถึงความรู้สึกของคุณ และขอให้ระงับการสัมผัสในช่วงที่คุณมีอาการปวดเต้านม เพราะมีโอกาสทำให้คุณรู้สึกอึดอัดและปวดมากขึ้น
- การประคบเย็นบริเวณหัวนมหรือเต้านมอาจช่วยบรรเทาอาการปวดและทำให้คุณรู้สึกสบายตัวขึ้น ถ้าคุณไม่ชอบน้ำเย็น คุณสามารถประคบด้วยน้ำอุ่นหรืออาบน้ำอุ่นเช่นกันได้
- การสวมเสื้อผ้าที่หลวม ๆ ช่วยลดการเสียดสีบริเวณหัวนมและเต้านม ที่สำคัญคือคุณจะรู้สึกสบายและสดชื่นมากขึ้น
อาการเจ็บเต้านมของผู้หญิงสามารถบ่งบอกถึงอะไรได้อีกบ้าง
อาการปวดเต้านมเป็นอาการที่ผู้หญิงสามารถพบเจอในช่วงต่าง ๆ ของชีวิต และอาจบ่งบอกถึงสถานะของสุขภาพของร่างกายดังนี้
- เป็นสัญญาณก่อนมีประจำเดือน อาการปวดเต้านมบางครั้งเป็นสัญญาณของระหว่างรอบประจำเดือน ซึ่งเกิดได้จากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกายของผู้หญิง
- เป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดได้ในระยะเริ่มต้นของการตั้งครรภ์
- เป็นสัญญาณของการก้าวเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน ในช่วงวัยทอง ร่างกายของผู้หญิงมีการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนที่ส่งผลให้เต้านมมีความเจ็บปวดได้
- เป็นสัญญาณของการแตกเนื้อสาว-เนื้อหนุ่ม อาจพบอาการปวดเต้านมเนื่องจากการพัฒนาเนื้อสาวหรือเนื้อหนุ่ม ซึ่งเป็นส่วนปกติของการเจริญเติบโต
- ผู้หญิงที่มีซีสต์เต้านมอาจมีอาการปวดเต้านมระหว่างรอบประจำเดือน เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในเนื้อเต้านมที่ทำให้มีก้อนหรือนูนในเต้านม
- เต้านมอักเสบ (Mastitis) เป็นการอักเสบในเต้านมที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการให้นมลูก อาการปวดเต้านมจะมาพร้อมกับอาการอักเสบอื่น ๆ เช่น ไข้สูง โดยจะต้องรับการรักษาโดยแพทย์
บทสรุป
อาการเจ็บนมเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยในผู้หญิง โดยมักเกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงในระดับฮอร์โมน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วไม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพใหญ่ แต่หากคุณมีอาการเจ็บนมที่ยาวนานเกิน 2 สัปดาห์หรือรู้สึกปวดมากถึงขนาดที่มีผลต่อชีวิตประจำวัน หรือมีอาการอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น คลำเจอก้อนเนื้อ รูปร่างของเต้านมเปลี่ยนไป มีเลือดหรือของเหลวออกมาจากหัวนม หรือผิวหนังเต้านมมีรอยย่นคล้ายผิวส้ม หรือรอยบุ๋ม ให้คุณควรคิดก่อนว่าอาจมีความเสี่ยงที่เป็นมะเร็งเต้านม และควรรีบพบแพทย์เพื่อการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่เหมาะสมโดยเร็วที่สุด วิธีที่จะช่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมได้อย่างง่ายและสะดวกคือการคลำเต้านมของคุณเอง ให้ทำการตรวจสุขภาพเต้านมอย่างสม่ำเสมอ และสามารถสอบถามวิธีอัพไซส์อกกับเราได้เลย